รอง ผบช.ภ.9 ลงคลี่คลายคดีรถแข่งชนคนดูเจ็บตาย ด้านยายเด็ก 2 ขวบเจ็บกะโหลกเปิด เผยไม่อยากให้จัดแข่งขันแต่ค้านไม่ได้ บ้านอยู่ริมถนนไม่ใช่คนดู รถแข่งพุ่งมาชนถึงบ้าน
จากกรณีเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์แข่งขันการกุศลรอบชิงชนะเลิศ ภายใต้ชื่อ “กะพังสุรินทร์โรดเรซซิ่ง” เสียหลักพุ่งชนผู้ชมที่ยืนบนขอบทางเท้าติดกับถนน บริเวณสวนสาธารณะสระกะพังสุรินทร์ ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก และเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 ก.ค. ที่ผ่านมา (อ่าน : เทศบาลโต้ ไม่ใช่ผู้จัดงานแข่งรถ ยอมรับผิดพลาดจริง หลังพุ่งชนคนดู เจ็บเพียบ-ตาย1)
ล่าสุดวันที่ 5 ก.ค.65 ที่ สภ.เมืองตรัง พล.ต.ต.กฤษดา แก้วจันดี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค9 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สันทัด วินสน ผบก.ภจว.ตรัง พ.ต.อ.เชื้อชาติ เยาว์ดำ ผกก.สภ.เมืองตรัง พ.ต.ท.อนุชัย สวยงาม รอง ผกก.สอบสวน และพนักงานสอบสวน เจ้าของคนคดีเรียกประชุมด่วนคลี่คลายคดีเหตุรถแข่งชนคนดูเจ็บตายระนาว
ต่อมา นางเพชรรัตน์ ช่วยแข็ง อายุ 42 ปี ลงพื้นที่ยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นยายของ เด็กชายวัย 2 ขวบ ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถแข่งพุ่งเข้าชน ขณะที่ลุงกำลังอุ้มอยู่ที่หน้าบ้านของตัวเอง ทำให้เด็ก 2 ขวบ บาดเจ็บผิวบริเวณกะโหลกเปิด แม้ว่าตอนนี้เด็กจะอยู่ในอาการปลอดภัยแล้ว แต่แผลยังไม่หายและยังมีเลือดไหลอยู่ ส่วนแม่ของเด็กก็ยังตกใจกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นางเพชรรัตน์ กล่าวว่า พยายามติดต่อไปที่ผู้จัดงานแล้ว แต่ไม่สามารถติดต่อได้ มีเพียงการนำกระเช้ามาเยี่ยมที่โรงพยาบาลที่เตียง 1 ครั้ง เมื่อสอบถามถึงการรับผิดชอบ ผู้จัดงานได้บอกปัดเพียงว่าให้ไปคุยกันที่โรงพักเท่านั้น แต่ตนไม่รู้ว่าจะต้องคุยอย่างไร เพราะต้องการให้เขาชดใช้กับกรณีที่เกิดขึ้น เพราะตนไม่ใช่เป็นคนที่มาดูรถแข่ง แต่เป็นชาวบ้านที่มีบ้านอยู่ริมถนน ซึ่งถูกใช้เป็นสนามแข่งขัน
แล้วจู่ ๆ รถก็พุ่งเข้ามาชนในบ้าน โดยผู้จัดยังไม่ได้มาถามอาการบาดเจ็บของหลาน และความรู้สึกของครอบครัวเลย ทั้ง ๆ ที่รถแข่งพุ่งมาชนที่หน้าบ้านของตนเองแท้ ๆ แม้จริง ๆ ในใจ ก็ไม่อยากให้จัดการแข่งขัน แต่ก็ไม่ได้คัดค้านอย่างใด ก่อนหน้านี้ทางญาติๆ ของน้องผู้ชายวัย 16 ปี ผู้ชมที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ จะได้ทำพิธีขอขมาเพื่อเรียกวิญญาณกลับไปจากบริเวณหน้าบ้านของตนแล้ว
แต่ทีมญาติๆ ของนักแข่งบางคนยังฝันถึงน้องที่เสียชีวิตว่า มานั่งอยู่หน้าบ้านของตน เมื่อตรวจสอบจึงพบว่า มีหมวกของน้องผู้ชายยังตกหล่นอยู่ที่หน้าบ้านของตนเอง จึงได้ฝากผู้สื่อข่าวให้ช่วยนำหมวกไปคืนให้แม่ของน้องที่เสียชีวิต ส่วนตนหากเสร็จธุระเรื่องหลานเมื่อไหร่ ก็จะรีบเดินทางเข้าไปร่วมเคารพศพน้องผู้ชาย ที่วัดควนสวรรค์ ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง จ.ตรัง