ใครที่เคยปวดเมื่อยแล้วหมอเคยสั่งยาคลายกล้ามเนื้อมาให้กิน อาจจะเคยได้ยินชื่อยา Norgesic และ Mydocalm อยู่บ้าง แม้ว่ายาทั้งสองตัวนี้จะเป็นยาคลายกล้ามเนื้อเหมือนกัน แต่มีความแตกต่างที่จำเป็นต้องรู้ก่อนกินด้วย
เฟซบุ๊กเพจ สาระสุขภาพยาน่ารู้ อธิบายถึงความแตกต่างของ Norgesic และ Mydocalm เอาไว้ดังนี้
Norgesic คือยาอะไร
ยายอดนิยมตัวนี้มีตัวยาสำคัญ คือ Orphenadrine citrate 35 mg และ paracetamol 450 mg เป็นยาแก้ปวด ส่วน Orphenadrine citrate เป็นยาคลายกล้ามเนื้อ มักนำยานี้มาใช้รักษาอาการปวดกล้ามเนื้อ อีกทั้งทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวและผ่อนคลาย
สำหรับยา paracetamol กรณีที่ได้รับมากเกินอาจเกิดอาการข้างเคียงที่อาจพบได้ เช่น ตับอักเสบ เป็นต้น
ส่วนยา orphenadine ออกฤทธิ์ต่อการทำงานของสารสื่อประสาทบางชนิดในสมอง และส่งผลให้กล้ามเนื้อลายของร่างกายมีภาวะผ่อนคลาย และลดอาการตึงตัว จนเป็นเหตุให้ลดภาวะเจ็บ ปวดของกล้ามเนื้อลงได้
อาการข้างเคียงจากการใช้ยา Norgesic ที่อาจพบได้
อาการข้างเคียงที่อาจพบได้ เช่น
- ปากแห้ง
- ปัสสาวะคั่ง
- มองภาพไม่ชัด
- ม่านตาขยาย
- ง่วงซึม
- ปวดศีรษะ
- อ่อนเพลีย
- ใจสั่น
- อาจพบมีการรบกวนระบบทางเดินอาหารได้
- อาจมีนอนไม่หลับ สับสน
- อาจมีประสาทหลอนได้
เป็นต้น
Mydocalm คือยาอะไร
Mydocalm® เป็นชื่อการค้าของยาชื่อสามัญ Tolperisone hydrochloride เป็นยาคลายกล้ามเนื้อเช่นเดียวกัน ออกฤทธิ์ที่ระบบประสาทส่วนกลาง ใช้บรรเทาอาการปวดจากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ เพราะมีฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ จึงนำมาใช้บรรเทาอาการปวดจากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ
ขนาดยาที่ใช้ คือ วันละ 300-450mg โดยให้แบ่งทานเป็น 3-4 มื้อ
อาการข้างเคียงจากการใช้ยา Mydocalm ที่อาจพบได้
สมัยก่อนคนอาจคิดว่ายากลุ่มนี้กินแล้วอาจง่วงนอน แต่มีการทดลองพบว่า ยากลุ่มนี้ไม่ทำให้ผู้ที่กินยาเกิดอาการง่วงนอนแต่อย่างใด ไม่มี sedative effect เกิดขึ้น สูตรโครงสร้างทางเคมีของ Tolperisone ไม่มีซัลฟาเป็นส่วนประกอบ แต่ tolperisone HCl เอง อาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงที่อาจพบได้ คือ
- ความดันโลหิตต่ำ
- เกิดผื่นแพ้ยา
- ปากแห้ง
- ไม่สบายท้อง ท้องเสีย
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- ง่วงซึม อ่อนเพลีย
ความแตกต่างของ Norgesic vs Mydocalm
ยาทั้ง 2 ยี่ห้อข้างต้นเหมือนกันในส่วนที่มีส่วนประกอบเป็นยาคลายกล้ามเนื้อ แต่ Norgesic® มี paracetamol เพิ่มเข้ามา
สาเหตุของอาการปวดกล้ามเนื้อ
อาการปวดกล้ามเนื้อ เกิดได้จากหลายสาเหตุดังต่อไปนี้
- ท่านั่งทำงานที่ไม่เหมาะสม
- ลักษณะงานที่ทำให้กล้ามเนื้อเกร็งตัวต่อเนื่องนานๆ เช่นการใช้คอมพิวเตอร์
- การบาดเจ็บของกล้ามเนื้อซ้ำๆ
- การทำงานที่มีการใช้กล้ามเนื้อท่าเดียวกันซ้ำๆ อย่างต่อเนื่อง
- การทำงานของกล้ามเนื้อมากเกินไป ขาดการพักผ่อนที่เพียงพอ
- การขาดการดูแลและการบริหารกล้ามเนื้อ ที่ถูกต้อง
กล้ามเนื้อยอก กล้ามเนื้ออักเสบ รักษาอย่างไร
จริงๆ แล้วอาการกล้ามเนื้อยอก กล้ามเนื้ออักเสบมักมีสาเหตุมาจากการใช้ร่างกายแบบฝืนธรรมชาติ ควรตรวจสอบสาหเหตุของอาการปวดและเปลี่ยนรุปแบบการทำร้ายกล้ามเนื้อเสียมากกว่าจะไปกินยาใดๆ
การรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อ
ยาที่แนะนำให้ใช้ในเป็นทางเลือกแรกคือ analgesics drug เช่น paracetamol หรือ ยาในกลุ่มต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตอรอยด์ (NSAIDS)
ส่วนการใช้ยาคลายกล้ามเนื้อนั้นยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่าเหมาะสมกัลการรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อหรือไม่ อาการปวดกล้ามเนื้อจากการใช้กล้ามเนื้อมากเกินไป มีผลทำให้กล้ามเนื้อเกิดการหดตัว ทำให้เกิดภาวะขาดเลือด ขาดออกซิเจน และขาดพลังงาน มีการคั่งของสารเช่น kinins, prostaglandin, serotonin, histamine ซึ่งสารนี้เป็นตัวกระตุ้นปลายประสาทรับความเจ็บปวดโดยเฉพาะ c-fiber ทำให้ปลายประสาทมีความไวต่อการกระตุ้น เกิดการปวดขึ้นมาเป็นวงจร แต่อย่างไรก็ตามการหดตัวของกล้ามเนื้อนี้เป็นการตอบสนองของร่างกายเพื่อปกป้องกล้ามเนื้อไม่ให้มีการเคลื่อนไหวเพิ่มมากขึ้นอีก ดังนั้นการไปยับยั้งการตอบสนองนี้ด้วยยาคลายกล้ามเนื้ออาจเกิดผลเสียได้เช่นกัน ดังนั้นการใช้ยาคลายกล้ามเนื้อจึงเป็นการใช้เพื่อรักษาตามอาการไม่ได้เป็นการรักษาที่ต้นเหตุ ซึ่งสาเหตุของการปวดกล้ามเนื้อก็มีหลายอย่างดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น
โดยฤทธิ์ในการรักษาความปวดของยาคลายกล้ามเนื้อเกิด จากการที่ยามีฤทธิ์สองประการ คือ
- ฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ เกิดจากการที่ยามีผลลดความตึงตัวของกล้ามเนื้อด้วยการลดการกระตุ้น motor neuron หรือยาบางชนิดอาจทำให้เซลล์กล้ามเนื้อลายมีระยะพัก (refractory period) นานขึ้น
- ฤทธิ์ลดอาการปวด ยาคลายกล้ามเนื้อบางชนิดสามารถลดอาการปวดได้โดยยับยั้งการทำงานของ nociceptive fiber เช่น orphenadrine หรือยาบางชนิดมีผลเสริมการทำงานของdescending inhibitory pathway เช่น cyclobenzaprine
เป็นต้น
ระยะเวลาของการใช้ยาคลายกล้ามเนื้อ
ยาคลายกล้ามเนื้อนี้ ไม่มีข้อกำหนดชัดเจนว่า “ไม่ควรใช้ยานานเกินเท่าไหร่” ตราบใดที่ทานยาในขนาดที่ใช้รักษา
ยาทั้ง 2 ชนิดนี้เป็นยาที่ใช้เฉพาะเมื่อมีอาการเท่านั้น ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ตลอดไป ถ้าหากว่าอาการปวดกล้ามเนื้อของคุณหายเป็นปกติก็ควรหยุกรับประทานยา เพราะ ใน Norgesic® มี paracetamol ผสมอยู่ด้วยเพื่อการออกฤทธิ์ลดปวดเพิ่มขึ้น หากรับประทาน paracetamol ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานอาจทำให้เกิดพิษต่อตับได้
อ่านเพิ่มเติม
- “ยาแก้ปวด” และ “ยาคลายกล้ามเนื้อ” ใช้อย่างไรให้ถูกต้อง?
- อันตรายจาก “ยาคลายกล้ามเนื้อ” หากกินไม่ถูกวิธี