ยังไม่คืบ! กกต. สอบปม พปชร. รับเงินบริจาค นายทุนจีน 3 ล้าน ก่อนหน้านี้ตั้งคณะทำงานสอบข้อเท็จจริง พร้อมขอกรอบเวลา 30 วัน

เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. แหล่งข่าวระดับสูงของ กกต. แจ้งว่า จากกรณี นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นเรื่องขอให้กกต.ตรวจสอบพรรคพลังประชารัฐในกรณีรับเงินบริจาค 3 ล้านบาทจากนายทุนชาวจีน ซึ่งเป็นเจ้าของสถานบันเทิงชื่อดังย่านยานนาวา ด้วยเป็นการร้องให้ตรวจสอบการเข้าข่าย มาตรา 44 ระบุว่า ห้ามพรรคการเมืองไปรับเงินรับทอง หรือรับประโยชน์อื่นใดจากบุคคลที่ให้การสนับสนุนการทำลายความมั่นคง การทำลายเศรษฐกิจของชาติ และการทำลายระบบราชการของชาติ

รวมทั้ง มาตรา 72 ที่ระบุว่า ห้ามพรรคการเมืองไปรับเงิน หรือทรัพย์สินประโยชน์อื่นใดโดยรู้ หรือควรรู้ว่าแหล่งที่มาไม่ชอบด้วยกฎหมาย และ มาตรา 74 ที่ห้ามพรรคการเมืองรับเงินจากบุคคลที่ไม่ได้ถือสัญชาติไทยนั้น ทราบว่าเรื่องนี้ยังอยู่ในขั้นตอนตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่ ซึ่งกระบวนการเช่นนี้ต้องใช้เวลาบ้างก่อนเข้าสู่ขั้นตอนรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานพิจารณาเสนอความเห็นต่อที่ประชุม กกต.

ส่วนที่ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่คนให้ความสนใจนั้นต้องแจ้งว่า ทุกเรื่องสำนักงานฯพยายามดำเนินการโดยไม่ล่าช้า จะเร็วได้เพียงใดขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน ซึ่งต้องเกี่ยวพันกับบุคคลหลายคนหลายหน่วยงาน ทางเราตระหนักดีว่าเป็นเรื่องที่คนสนใจ และเลขาธิการฯในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองก็ต้องตรวจสอบให้รอบคอบก่อนสรุปความเห็นมายัง กกต.

โดยก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวว่า ทาง เลขาธิการกกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ได้ตั้งคณะทำงานไต่สวนและสืบสวนขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงไปแล้ว โดยขั้นตอนการทำงานทางคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน ต้องแสวงหาข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐาน รวมทั้งเรียกผู้ร้องและผู้ถูกร้องมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม ภายในกรอบระยะเวลา 30 วัน

แต่หากไม่แล้วเสร็จ ทางคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน สามารถขอขยายระยะเวลาออกไปอีก 30 วัน เพื่อรวบรวมข้อมูลเอกสารหลักฐานและพยานให้ครบถ้วนก่อนจัดทำเป็นความเห็นเสนอต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองและรายงานเข้าที่ประชุมกกต.พิจารณาต่อไป