จำนวนคนร่วมงานเลี้ยงกำนันนก ตำรวจเพิ่มเป็น 28 พลเรือน 27 ยันกู้วงจรปิดได้เร็วๆ นี้ ไม่เกิน 14 ก.ย.

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางมายังตำรวจภูธรภาค 7 เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดียิง พ.ต.ต.ศิวกร หรือ สารวัตรศิว พร้อมกับเปิดเผยว่า ทางพนักงานสอบสวนยังคงเร่งดำเนินการสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องในที่เกิดเหตุเพิ่ม ก่อนหน้านี้พบว่ามีพยานพลเรือนบุคคลภายนอกจำนวน 10 คน แต่วานนี้เพิ่มมาอีก 17 คน เป็น 27 คน และพบมีตำรวจในที่เกิดเหตุเพิ่มจากจำนวนเดิมอีก 2 คน ทำให้มีตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุรวมจำนวน 28 คน เท่าที่พบตำรวจ ที่มาร่วมงานยังมีแค่ยศถึงผู้กำกับ      

ส่วนประเด็นที่จะแจ้งข้อกล่าวหาใครบ้าง ขอสอบสวนทั้งหมดก่อน ซึ่งต้องรอหลักฐานสำคัญคือการเปิดภาพวงจรปิดจากเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งจะทำให้ความจริงออกมาประจักษ์ชัดว่าใครทำอะไรบ้าง โดยประเด็นการเปิดเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ ตอนนี้เซิร์ฟเวอร์อยู่ระหว่างการถอดจะต้องใช้เวลาดำเนินการคาดว่าไม่เกินวันพฤหัสบดี ที่ 14 ก.ย. ถึงสามารถตรวจสอบภาพวงจรปิดที่อยู่ในเซิร์ฟเวอร์ได้ เบื้องต้นพบว่าเซิร์ฟเวอร์ไม่ได้รับความเสียหายอะไร เนื่องจากโชคดีที่ทางเจ้าหน้าที่เก็บจากจุดที่นำไปโยนทิ้งน้ำไว้ได้ทัน

ทั้งนี้ ยืนยันว่าตอนนี้ตำรวจที่อยู่ในที่เกิดเหตุทั้งหมดให้การไม่เป็นความจริง แต่ไม่เป็นไรเพราะตอนนี้ทางตำรวจจะสอบสวนหาความจริงเองจากชุด พนักงานสอบสวน จากกองปราบปรามร่วมกับตำรวจภูธรภาค 7 ส่วนพลเรือน จะมีการตรวจสอบอีกครั้งและเชื่อว่าจะพบเพิ่มอีก      

ในกรณีการสอบเลขาของนายก อบจ. ก็ทราบข้อเท็จจริงว่ามาร่วมงานดังกล่าวจริง โดยมาร่วมงานเฉพาะเพียงเลขาฯ อบจ. แต่ นายก อบจ.ไม่ได้มา ทางด้านความคืบหน้าในส่วนของสำนวนคดี เรื่องการมัดตัวกำนันนก ไม่ได้มีปัญหาอะไรหรือมีอะไรน่าหนักใจ แต่ว่าสิ่งต้องทำเพิ่มคือการไล่ความเชื่อมโยงทั้งหมดไปถึงธุรกิจของกำนันนก เรื่องธุรกิจก่อสร้าง และมีการทำออนไลน์ต่างๆ ก็จะไล่แกะทั้งหมด เพื่อหาความจริงมาให้ได้ โดยส่วนการตรวจสอบจะเป็นการตรวจสอบร่วมกับ สตง. มีกรมบัญชีกลาง ถึงใครก็ต้องสอบหมดจะไม่เกรงใจใคร ถ้าเข้าข่ายความผิดดังกล่าว ที่มีการเลี่ยงภาษีอากร ก็จะดำเนินการยึดทรัพย์ทันที ร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน อีกอย่าง นายกรัฐมนตรี ให้ความเป็นห่วงมาแล้วว่า ให้เน้นการปราบปรามผู้มีอิทธิพลทุกพื้นที่ และขอยืนยันว่าในทุก ประเด็นจะสอบให้หมด

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังบอกว่า ตอนนี้มีข้อมูลบริษัทของกำนันนกแล้ว เหลือบางส่วนที่ต้องสอบเพิ่มเติม ข้อมูลตอนนี้ที่มีทราบว่า บริษัทคู่เทียบ และพบเส้นทางการเงินที่มีการจ่ายเงินและโอนเงินให้กับตำรวจ ซึ่งมีทั้งตำรวจที่มาร่วมงานในวันนั้น และที่ไม่ได้มาร่วมงาน ในส่วนนี้อาจจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม

เมื่อถามว่าเส้นเงินที่โยงถึงเป็นเป็นเส้นเงินจากการฮั้วประมูลหรือว่าส่วนสติกเกอร์ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าเป็นเส้นเงินเกี่ยวกับเรื่องอะไร ต้องไล่ต่อไป รวมทั้งต้องไปตรวจสอบด้วยว่าเกี่ยวกับการพนันออนไลน์หรือไม่เนื่องจากทรัพย์สินมีมูลค่าจำนวนมาก

โดยเรื่องส่วยสติกเกอร์ก่อนหน้านี้ทางจเรตำรวจมีการเรียกสอบ ส่วนเราก็สืบสวนของเราไปหากเกี่ยวข้องกัน ถึงจะเอาข้อมูลร่วมกัน ขณะเดียวกันมีรายงานว่าวานนี้ (11 ก.ย.) มีนักข่าวสำนักหนึ่งโทรศัพท์ไปสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้กำกับท่านหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์ แต่ถูกขู่ทำนองว่า จะถามทำไมมาก ระวังกระสุนจะไปถึง ประเด็นนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกว่า หากมึหารข่มขู่จริง นักข่าวสามารถแจ้งความดำเนินคดีกับตนได้เลย