ความเคลื่อนไหวของนักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทย ชุดเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา หลังทำผลงานรวมคว้า 2 เหรียญทอง 7 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดงนั้น

“เสธ.ยอด” พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกกิตติมศักดิ์สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ซีเกมส์ครั้งนี้ ทัพยกน้ำหนักไทยคว้าได้ 2 เหรียญทอง ตรงกับเป้าที่วางไว้ แต่แท้จริงแล้วเรามองถึง 5 เหรียญทอง ทว่านักกีฬามีอาการบาดเจ็บบ้าง หรือไม่ก็โดนลูกฟลุ๊กของคู่แข่งบ้าง

เสธ.ยอดกล่าวอีกว่า ในช่วงเดียวกันนี้ทีมยกเหล็กไทยมีโปรแกรมชิงแชมป์เอเชีย ที่เมืองจินจู ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นการควอลิฟายโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ดังนั้นเด็กเก่งๆ จะไปแข่งที่เกาหลีใต้หมด เพราะเราอยู่ในแรงกิ้งที่จะไปปารีสเกมส์ 2024 แต่เราก็พยายามไม่ให้พลาดทั้งซีเกมส์ และคัดโอลิมปิกด้วย จึงเป็นการตัดสินใจที่ลำบากมาก

“เราก็พยายามที่จะทำให้มีความเสมอภาคเท่าเทียมกัน ทั้งซีเกมส์ และควอลิฟายโอลิมปิก ดังนั้นเราได้ 2 เหรียญทองซีเกมส์ก็ถือว่าพอใจ ส่วนที่พลาด 2-3 เหรียญทองก็เกิดจากอาการบาดเจ็บ ก็เป็นสิ่งที่ช่วยไม่ได้ กลับไปคงต้องทำบุญกันเยอะๆ แต่มีความมั่นใจว่าในซีเกมส์อีก 2 ปีข้างหน้าที่เราเป็นเจ้าภาพ เราต้องเป็นเจ้าเหรียญทองกีฬายกน้ำหนัก”

พล.ต.อินทรัตน์ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ในช่วงแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่นครหางโจว ประเทศจีน ช่วงเดือนกันยายนนี้ จะมีโปรแกรมทับซ้อนรายการคัดเลือก โอลิมปิกเกมส์ 2024 เช่นเดียวกัน ซึ่งกำลังวางแผนงานกันว่าเราจะหวังเหรียญไหนในเอเชี่ยนเกมส์ที่ไม่ได้อยู่ในโอลิมปิก แต่รุ่นที่อยู่ในโอลิมปิกเราจะเอาตัวสำรองลงในเอเชี่ยนเกมส์

“ในเอเชียนเกมส์มีแข่งขันทั้งหมด 10 รุ่น แต่เขาให้ส่งได้ประเทศละ 6 รุ่นคือ หญิง 3 รุ่น และชาย 3 รุ่น เพราะฉะนั้นก็ต้องมองว่าเอาตัวสำรองรุ่นที่อยู่ในโอลิมปิกเกมส์มาลงเอเชียนเกมส์ แต่รุ่นที่ไม่ได้อยู่ในโอลิมปิกเกมส์เราก็เอาตัวจริงมาลงที่เอเชี่ยนเกมส์ ดังนั้นเราต้องทำใจ แต่อย่าลืมว่าสมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ ไม่เคยทำให้คนไทยผิดหวัง”