แท็กซี่ทวงคืนความยุติธรรมฯ บุกทำเนียบ ยื่นหนังสือถึง “ประยุทธ์” จี้ หยุดขูดรีดประชาชน ไปอุ้มนายทุนพลังงาน โวยรัฐบาลเพิกเฉยปัญหาค่าไฟแพง

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 29 พ.ย. 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล ประตู 4 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ การนัดชุมนุมของกลุ่มแท็กซี่ทวงคืนความยุติธรรม และกลุ่มเครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศ มีการปิดการจราจรบริเวณถนนพิษณุโลก ช่วงสะพานชมัยมรุเชฐ ถึงแยกกระทรวงศึกษาธิการ ถนนราชดำเนิน ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ทั้ง 2 ช่องทาง โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งในและนอกเครื่องแบบ อยู่บริเวณดังกล่าว

กลุ่มผู้ชุมนุมได้เคลื่อนย้ายมาตรงด้านหน้ากระทรวงศึกษาธิการ และใช้เครื่องขยายเสียงขนาดเล็ก ในการพูดคุยและปราศรัย โดยมีกลุ่มผู้ชุมนุมที่ขับรถแท็กซี่ ประมาณ 20-25 คน โดยทางกลุ่มได้ปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาล พร้อมอ่านแถลงการณ์ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เรื่อง ขอให้นายกรัฐมนตรีปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ หยุดการขูดรีดราษฎร ไปอุ้มนายทุนพลังงาน

กลุ่มผู้ชุมนุม ระบุต่อว่า หยุดขึ้นค่าไฟฟ้า เครือข่ายภาคประชาชนเป็นผู้มีสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ รัฐบาลจะต้องคุ้มครองสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ เจ้าหน้าที่รัฐ หน่วยงานรัฐ ศาล องค์กรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ปตท. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) คณะรัฐมนตรี (ครม.) รัฐสภา จะต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย เพื่อรักษาผลประโยชน์ส่วนรวม

ภาคประชาชน ได้ยื่นหนังสือทักท้วงเรื่องค่าไฟฟ้า ราคาพลังงานหลายครั้ง แต่ปรากฏว่ารัฐบาลยังเดินหน้าปฏิบัติหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เอื้อประโยชน์กลุ่มทุนพลังงานและโรงไฟฟ้าเอกชน ที่พากันกำไรเพิ่ม และรัฐบาลให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน ขัดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และประมวลจริยธรรม ที่ว่ารัฐบาลต้องนำเข้าก๊าซ LNG ราคาแพง ก๊าซธรรมชาติอ่าวไทยลดลง ไม่เพียงพอในการผลิตไฟฟ้า และกฟผ.เป็นหนี้แสนล้าน

กลุ่มผู้ชุมนุม ระบุต่อว่า ทั้งๆ ที่ก๊าซในอ่าวไทยมีเพียงพอในการผลิตไฟฟ้า แต่รัฐบาลกลับยินยอมให้อุตสาหกรรมปีโตรเคมีและเอกชนแย่งใช้ ในราคาถูก ผลักกฟผ.ไปใช้ก๊าซ LNG ราคาแพงหลายเท่า ประชาชนต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายสูง ขณะที่นายทุนพลังงานรวยขึ้น เมื่อค่าไฟฟ้าแพงขึ้นมาก ส่งผลกระทบต่อต้นทุนในการผลิตสินค้า ค่าเดินทาง ค่าขนส่งทุกระบบ กระทบเป็นลูกโซ่ ส่งผลให้ธุรกิจเอสเอ็มอีอยู่ไม่ได้ ระบบเศรษฐกิงพังพาบในอนาคต

ทั้งๆ ที่รัฐบาล โดยพล.อ.ประยุทธ์ สามารถทำให้ค่าไฟฟ้าลดลงได้ โดยยกเลิกมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ให้ กฟผ.ใช้แก๊สในอ่าวไทย ก่อนภาคปีโตรเคมีซึ่งเป็นของเอกชน ราคาแก๊สที่เป็นต้นทุนในการผลิตไฟฟ้าก็จะลดลง ทำให้ค่าไฟฟ้าลดลง แต่นายกฯ กลับเพิกเฉย และยังเดินหน้าจะขึ้นค่าไฟฟ้า ในช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย. ปี 2566 อีกเกือบ 1 บาท โดยอ้างเหตุเดิมๆ ทั้งที่นายกฯ สามารถใช้อำนาจในการแก้ไขได้ แต่ก็ไม่ทำ

จากนั้น ทางกลุ่มแท็กซี่ทวงคืนความยุติธรรม และเครือข่าย ได้ยื่นหนังสือถึงนายกฯ ผ่านนายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ก่อนจะยุติการชุมนุม