เศรษฐกิจไทย ขยับฤกษ์รูดม่านเปิดที่ทำการพรรคใหม่ ลั่นต้องทบทวน หลังพ่ายยับสนามซ่อมลำปาง ชี้ปัจจัยเกิดจาก บทบาทพรรคไม่ชัด-ผู้สมัครห่างพื้นที่-มือที่มองไม่เห็น
เมื่อวันที่ 11 ก.ค.2565 นายบุญสิงห์ วรินทรักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะนายทะเบียนพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการทำบุญเปิดที่ทำการพรรคใหม่ อาคารปานศรี ถ.รัชดาภิเษกว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ในฐานะหัวหน้าพรรค ตั้งใจจะเปิดในวันที่ 23 ก.ค. ซึ่งเป็นฤกษ์ดี แต่ตรงกับวันลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯ และรัฐมนตรี จึงต้องขยับวันออกไปก่อน ให้กระแสเรื่องอภิปรายไม่ไว้วางเบาลงก่อน จากนั้นจะกำหนดวันอีกครั้ง คาดว่าไม่น่าจะเกินปลายเดือนก.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อสังเกตว่าผู้สมัครของพรรค แพ้เลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 4 ลำปาง ให้กับพรรคเสรีรวมไทย ขาดลอย จนถูกวิจารณ์ว่ามีปัจจัยการเมืองอื่นมาเกี่ยวข้อง นายบุญสิงห์ กล่าวว่า ยอมรับว่าผลที่ออกมาผิดคาด เพราะจากที่เราหาเสียงมา มั่นใจว่าจะชนะ ขณะที่พรรคเสรีรวมไทย ยังคิดว่าอาจจะแพ้เรา แต่ผลที่ออกมาครั้งนี้ ยอมรับว่าพรรคต้องไปทบทวนการทำงานว่าเราพลาดจุดไหน อย่างไร เพื่อปรับแผนทำงานต่อไป
เมื่อถามว่าประเมินสาเหตุที่พรรคเพลี่ยงพล้ำอย่างไร นายบุญสิงห์ กล่าวว่า ยอมรับว่าแนวทางหาเสียงแบบสร้างสรรค์ ที่นำเสนอผลงานและสิ่งที่พรรคจะขับเคลื่อน ทำเพื่อประโยชน์ของบ้านเมืองและประชาชนในอนาคต โดยไม่ได้พูดถึงคู่แข่งในทางเสียหาย ขณะที่คู่แข่งโจมตีเราตลอด และส่วนหนึ่งคือ ความไม่ชัดเจนในบทบาทการทำงานของพรรคว่าจะสนับสนุนฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน เนื่องจากที่ผ่านมาพรรคประกาศตัวว่า จะทำงานโดยยึดประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก พร้อมจะค้านหากเห็นอะไรที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งบางเรื่องเราเห็นด้วยกับรัฐบาล บางเรื่องไม่เห็นด้วยก็ค้าน แต่ไม่ใช่ค้านทุกเรื่อง
นายบุญสิงห์ กล่าวว่า ตรงนี้อาจทำให้ประชาชนสับสนและมองว่าการทำงานของพรรคยังไม่ชัดเจน และชื่อพรรคเศรษฐกิจไทย ประชาชนอาจยังไม่คุ้นเคย จึงเป็นช่องว่างทำให้เกิดความไม่เข้าใจได้ รวมถึงการลงพื้นที่ของผู้สมัคร ซึ่งเป็นอดีตส.ส.อาจจะน้อย เพราะไปเน้นบทบาทงานในสภา หรือกรรมาธิการ ทำให้ห่างจากพื้นที่ ลงไปพบประชาชนน้อยลง อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าปัจจัยเรื่องสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ หารด้วย 100 หรือ 500 ไม่มีผลต่อการเลือกตั้งครั้งนี้
“ปัจจัยทั้งเรื่องการลงพื้นที่ ที่เราอาจชะล่าใจไปบ้าง และความไม่ชัดเจนต่อสถานะของพรรค ยอมรับว่ามีผลต่อคะแนนที่ออกมา แต่มั่นใจว่าไม่ใช่มาจากการสั่งสอนของประชาชน ส่วนจะมาจากมือที่มองไม่เห็นหรือไม่นั้น ผมไม่ขอพูดถึง แต่คิดว่าอาจจะมีส่วน ประสบการณ์ครั้งนี้เราต้องหันมามองตัวเองใหม่ และปรับการทำงาน” นายบุญสิงห์ กล่าว