ตำรวจร่วมฝ่ายปกครอง อ.เมืองกาญจนบุรี เข้าตรวจสอบรีสอร์ทร้าง หลังกรรมการผู้ถือหุ้น เข้าแจ้งความถูกบุกรุกใช้พื้นที่ ลอบปลูกกัญชากว่า 5 ไร่

เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2564 ตำรวจสภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอ.เมืองกาญจนบุรี นำกำลังเข้าตรวจสอบรีสอร์ท แห่งหนึ่งในต.วังเย็น อ.เมือง หลังได้รับการร้องเรียนจากกรรมการผู้ถือหุ้นรีสอร์ท ว่ามีกลุ่มบุคคลบุกรุกเข้ามายึดถือครอบครองและปลูกกัญชาเป็นจำนวนมาก

จากตรวจสอบพบว่าประตูเหล็กด้านหน้ารีสอร์ท ถูกล็อกด้วยแม่กุญแจและมีป้ายแสดงชื่อขององค์กรแห่งหนึ่งติดอยู่ที่ประตูทางเข้า เจ้าหน้าที่จึงได้ตัดกุญแจเปิดประตูเข้าไปภายในรีสอร์ท พบว่าที่ด้านหลังกำแพงรั้วมีการลักลอบปลูกต้นกัญชาจำนวนมากเนื้อที่รวมประมาณ 5 ไร่

นอกจากนี้บริเวณภายในอาคารยังพบใบกัญชาอบแห้งตากอยู่จำนวนหนึ่ง พร้อมทั้งควบคุมคนงานได้ 2 คน โดยทั้งสองคนรับว่า ถูกว่าจ้างให้เข้ามาเฝ้ารีสอร์ทดังกล่าว แต่อ้างไม่รู้เห็นเกี่ยวกับการลักลอบปลูกกัญชาหรือนำกัญชามาอบแห้ง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวคนงานทั้งสองคน ไปสอบปากคำเพิ่มเติม

พร้อมกันนี้ได้ทำการตัดทำลายต้นกัญชาสดที่ปลูกอยู่ภายในรีสอร์ททิ้งทั้งหมด ซึ่งพบว่าต้นกัญชาสดมีน้ำหนักรวมมากถึง 600 กิโลกรัม และกัญชาอบแห้ง น้ำหนักรวม 54 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่จึงนำของกลางทั้งหมดไปเก็บรักษาไว้ที่สภ.เมืองกาญจนบุรี

ด้านกรรมการผู้ถือหุ้นรีสอร์ท กล่าวว่า รีสอร์ทแห่งนี้เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท ซึ่งมีผู้ถือหุ้นทั้งหมด 5 คน โดยรีสอร์ทแห่งนี้ได้ปิดทำการมานานกว่า 10 ปี จึงไม่ได้เข้ามาดูแล กระทั่งผู้ถือหุ้นมีมติเห็นตรงกันที่จะประกาศขายรีสอร์ท จึงได้ติดป้ายประกาศขาย แต่เมื่อมาถึงรีสอร์ท กลับพบว่ามีกลุ่มบุคคล เข้ามาอยู่อาศัยภายในรีสอร์ทและลักลอบปลูกกัญชาในพื้นที่

ทั้งนี้ทางกรรมการผู้ถือหุ้น ได้ดำเนินการสอบถามไปยัง มูลนิธิที่ถูกอ้างชื่อนำมาติดที่ประตูทางเข้ารีสอร์ทแล้ว ทางมูลนิธิยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นแต่อย่างใด พร้อมกันนี้ทางมูลนิธิยังได้ขอให้ตำรวจดำเนินคดีกับบุคคลที่ปรากฏชื่อบนป้ายไวนิล ที่ได้แอบอ้างชื่อของมูลนิธิไปใช้ในการลักลอบปลูกกัญชาในครั้งนี้ด้วย

ด้านพ.ต.อ.สมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน คุมตัวคนงานทั้ง 2 คน ไปสอบสวนอย่างละเอียด เพื่อหาตัวผู้ที่อยู่เบื้องหลังการลักลอบปลูกต้นกัญชามาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป