พะเยา มืดมิด! ค่า PM 2.5 วิกฤต มลพิษหมอกควันฟุ้งขึ้นทุกวัน ฝุ่นแผ่ปกคลุมทั่วเมือง เหตุลักลอบเผาไม่หยุด ลุกลามอุทยานฯ ดอยภูนาง วอดแล้ว 225 ไร่
28 มี.ค. 66 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดพะเยาเจอมลพิษหมอกควัน PM 2.5 อย่างหนักเข้าขั้น เพราะนอกจากควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก ทำให้มีผลกระทบต่อสุขภาพแล้ว ยังมีผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน
ส่วนหนึ่งของสาเหตุดังกล่าวเกิดมาจากการเผาในพื้นที่จังหวัด และการเผาของประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงการเกิดไฟป่า ประกอบกับสภาพภูมิประเทศของจังหวัดพะเยาที่มีภูเขาล้อมรอบ ทำให้มลพิษต่างๆ ถูกกักไว้และแผ่ปกคลุมไปทั่วเมืองพะเยา หมอกควันจึงบดบังวิสัยทัศน์ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน
ส่วนผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ ต.บ้านต๋อม อ.เมือง จ.พะเยา พบ PM 2.5 ปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน มีค่า 159 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) อยู่ในเกณฑ์ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
นอกจากนี้ ยังพบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) มีค่า 181 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3)และ AQI มีค่า 269 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) อยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ
โดยที่ผ่านมาหมอกควันในพื้นที่พะเยาได้เข้าสู่ขั้นวิกฤตและหนักขึ้นทุกวัน ยังมีการเผาป่าอย่างต่อเนื่องและเริ่มหนักขึ้นซึ่งที่ผ่านมาได้เกิดไฟป่าและการเผาป่าหลายจุด โดยเฉพาะอุทยานแห่งชาติดอยภูนาง เกิดจุดความร้อน (Hot spot) ขึ้นในเขตพื้นที่ อำเภอเชียงม่วน อำเภอปง อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา จำนวน 18 จุด
เจ้าหน้าที่และอาสาอุทยานแห่งชาติดอยภูนาง ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ ภน.1 (ผาตั้ง),ภน.2 (ห้วยสิงห์), ภน.3 (ห้วยยั๊วะ), ภน.5 (บ่อเบี้ย), ภน.5 (ห้วยฮุง) ภน.7 (ห้วยต้นผึ้ง) และชุดสายตรวจส่วนกลาง กำลังพล 20 นาย ได้เข้าตรวจสอบจุดความร้อน ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูนาง และได้ทำการควบคุมดับไฟป่าและทำแนวกันไฟบางจุด
เนื่องจากสภาพพื้นที่เป็นภูเขาสูงชัน ระยะทางไกล ต้องเดินเท้าเข้าไปยังจุดความร้อน ทำให้การเดินทางเข้าไปดับไฟป่าเป็นไปด้วยความยากลำบาก บางจุดเป็นพื้นที่ป่าไผ่ซางตายขุ๋ย ซึ่งยากต่อการควบคุมไฟ และเสี่ยงเกิดอันตรายแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานภาคสนาม กำลังพลเจ้าหน้าที่
ทำให้พื้นที่ป่า อุทยานแห่งชาติดอยภูนาง ถูกไฟป่าเผาเสียหายทั้งหมด 225 ไร่ ซึ่งสาเหตุหลักๆของการเกิดไฟป่าคาดว่าเกิดจากการลักลอบเข้าไปเก็บหาของป่า และการล่าสัตว์ป่าของชาวบ้าน