มีแค่นี้จริงๆ แม่เลี้ยงเดี่ยวโพสต์ขาย "ทัพพี" สมบัติมีค่าชิ้นสุดท้ายหาเงินต่อชีวิต

Home » มีแค่นี้จริงๆ แม่เลี้ยงเดี่ยวโพสต์ขาย "ทัพพี" สมบัติมีค่าชิ้นสุดท้ายหาเงินต่อชีวิต
มีแค่นี้จริงๆ แม่เลี้ยงเดี่ยวโพสต์ขาย "ทัพพี" สมบัติมีค่าชิ้นสุดท้ายหาเงินต่อชีวิต

วันที่ 12 พฤษภาคม 2564  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์รูปภาพทัพพีตักข้าวสีเงิน พร้อมพิมพ์ข้อความว่า

“พิษโควิดไม่มีเงินใช้ ขายจนหมดบ้านล่ะ ทัพพีชิ้นนี้ขาย 2,000 สนใจทักมาได้ ไม่มีเก็บปลายทาง”

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพูดคุยกับผู้โพสต์ คือ น.ส.สุกัญญา รักชาติ อายุ 36 ปี ชาวบ้าน ต.สะเดียง อ.เมืองเพชรบูรณ์ โดยได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมีลูก 2 คน เป็นผู้ชายทั้งคู่ กำลังจะขึ้น ป.5 และ ม.5 เมื่อก่อนตนเป็นลูกจ้างล้างจาน และทำความสะอาดที่ร้านอาหารตามสั่งแห่งหนึ่ง ได้ค่าจ้างวันละ 200 บาท

ต่อมาเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา ทางร้านได้แจ้งว่าจะหยุดขายเนื่องจากโรคโควิดระบาด ตนจึงหันมาเก็บของเก่า รับซื้อของเก่าแล้วนำมาซ่อมแซม จากนั้นนำไปขายที่ตลาดนัดในตัวเมือง เมื่อก่อนขายได้ครั้งละ 500 บาท แต่พอโรคโควิดระบาดหนัก ทำให้ขายแทบไม่ได้เลย ทุกวันนี้ก็นำเงินออมออกมาใช้จนหมดแล้วเหลือติดตัวเพียง 500 บาท ซึ่งจะต้องมีภาระในการจ่ายค่าไฟฟ้า ค่ากินค่าอยู่ รวมทั้งข้าวสารก็จะหมดแล้ว จึงไม่รู้จะทำอย่างไร ทรัพย์สินในบ้านก็ไม่รู้จะเอาอะไรไปขายแล้ว จึงตัดสินใจนำเอาทัพพีเงินของแม่ ที่ได้รับมาจากยายเมื่อหลายสิบปีก่อนมาขาย โดยตั้งราคาไว้ที่ 2,000 บาท ซึ่งตนก็ไม่รู้จะขายได้หรือไม่  

ตอนนี้ตนหมดหนทางแล้วจริงๆ ของเก่าที่เก็บและนำมาซ่อมแซมเพื่อขายก็ยังมีอยู่จำนวนหนึ่ง แต่ก็ไม่มีใครซื้อ ตอนนี้ตนเครียดมาก อีกทั้งที่อยู่ปัจจุบันนี้ก็อาศัยอยู่ในที่ของคนอื่น เจ้าของก็ได้มาแจ้งแล้วว่าจะให้ย้ายออก ซึ่งตนก็ยังไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหนเลย ได้แต่ร้องขอ และขอความเห็นใจจากเจ้าของที่ แต่ถ้าหากในอนาคตเจ้าของที่จะใช้ที่ดินแปลงดังกล่าว ตนก็จำเป็นต้องย้ายออก ซึ่งก็ยังไม่รู้เลยว่าจะไปอยู่ที่ไหนกัน 

น.ส.สุกัญญา รักชาติ เปิดเผยอีกว่า การระบาดโควิด 19 เมื่อครั้งที่แล้ว ยังมีหน่วยงาน ผู้ใจบุญ ทำอาหารแจก มีตู้ปันสุขแจก ตนและลูกๆ ก็ได้อาศัยบรรเทาความเดือดร้อนได้ แต่มาในครั้งนี้แทบไม่มีใครแจกอาหาร หรือตู้ปันสุขเลย ต้องกินต้องอยู่แบบประหยัดสุดๆ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะต้องทนอยู่กับสถานการณ์เช่นนี้ไปอีกนานเมื่อไหร่ และถ้าหากโรงเรียนเปิดเทอมตนก็ยังไม่รู้เลยว่า จะหาเงินจากที่ไหนให้ลูกไปโรงเรียน ตอนนี้เครียดมาก แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ