มีคำอธิบายทางจิตวิทยา ทำไมแก๊งสาดน้ำซุป ไล่ทำร้ายคนอื่น เหมือนไม่ใช่มนุษย์

Home » มีคำอธิบายทางจิตวิทยา ทำไมแก๊งสาดน้ำซุป ไล่ทำร้ายคนอื่น เหมือนไม่ใช่มนุษย์
มีคำอธิบายทางจิตวิทยา ทำไมแก๊งสาดน้ำซุป ไล่ทำร้ายคนอื่น เหมือนไม่ใช่มนุษย์

พฤติกรรมความรุนแรงเพื่อแสดงอำนาจ: คำอธิบายทางจิตวิทยาและอาชญวิทยา

ในกรณีที่นักศึกษารุ่นพี่กระทำการใช้ความรุนแรงต่อนักศึกษารุ่นน้อง เช่น การสาดน้ำร้อน เตะต่อย บังคับให้เพื่อนยืนดูและถ่ายคลิป รวมถึงพฤติกรรมบังคับให้คนอื่นกราบเท้า หรือจ่ายเงินเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกทำร้าย พฤติกรรมเหล่านี้สามารถอธิบายได้ในเชิงจิตวิทยาและอาชญวิทยา โดยมีทฤษฎีและคำอธิบายดังต่อไปนี้

1. ทฤษฎีเกี่ยวกับพฤติกรรมของคนที่ใช้ความรุนแรงเพื่อควบคุมผู้อื่น

พฤติกรรมการใช้ความรุนแรงหรือการแสดงอำนาจเช่นนี้ สามารถอธิบายได้ด้วย ทฤษฎีการควบคุม (Control Theory) ซึ่งถูกนำเสนอในงานของนักจิตวิทยาและอาชญวิทยาหลายคน โดยเฉพาะ Travis Hirschi ที่อธิบายว่า คนบางคนใช้ความรุนแรงเพื่อเสริมสร้างอำนาจหรือควบคุมคนอื่น เพราะเชื่อว่าการใช้อำนาจและความรุนแรงจะทำให้ตนเองได้รับการยอมรับหรือเคารพจากผู้อื่น

การที่ผู้กระทำบังคับให้คนอื่นดูหรือถ่ายคลิปเหตุการณ์ เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างภาพลักษณ์หรือการควบคุมความรู้สึกของคนรอบข้าง พฤติกรรมนี้สะท้อนถึงความต้องการยืนยันตนเองว่ามีอำนาจเหนือกว่าผู้อื่น

2. ความเชื่อเกี่ยวกับลำดับชั้นในสังคมและการแสดงอำนาจ

ในหลายกรณีที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรง การใช้อำนาจเหนือผู้อื่นมีความสัมพันธ์กับ ทฤษฎีการแลกเปลี่ยนทางสังคม (Social Exchange Theory) ของ George Homans ที่อธิบายว่า ผู้คนมักจะใช้การควบคุมหรืออำนาจเพื่อสร้างสมดุลระหว่างความเสี่ยงและผลประโยชน์ในสถานการณ์ทางสังคม คนที่ใช้ความรุนแรงอาจเชื่อว่าการทำร้ายผู้อื่นจะทำให้ตัวเองได้รับประโยชน์ เช่น การยอมรับจากกลุ่มหรือการปกป้องตนเองจากการถูกวิพากษ์วิจารณ์

ในกรณีนี้ การบังคับให้กราบเท้าหรือการใช้ความรุนแรงในเชิงการบังคับ เช่น บังคับให้จ่ายเงิน เป็นส่วนหนึ่งของการสร้าง “ลำดับชั้น” ที่แสดงให้เห็นว่า ตนเองมีอำนาจเหนือผู้อื่น

3. พฤติกรรมการข่มเหงในสังคม (Bullying Behavior)

พฤติกรรมดังกล่าวสามารถเชื่อมโยงกับพฤติกรรมการข่มเหงหรือการกลั่นแกล้ง (Bullying Behavior) ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่แสดงออกถึงการใช้ความรุนแรงเพื่อทำให้ผู้อื่นรู้สึกอ่อนแอ หรืออยู่ในสถานะที่ต่ำกว่าตนเอง Dan Olweus นักจิตวิทยาชาวนอร์เวย์ที่เป็นผู้บุกเบิกการวิจัยเกี่ยวกับการกลั่นแกล้ง ให้คำอธิบายว่า พฤติกรรมการกลั่นแกล้งเป็นการสร้างความรู้สึกเหนือกว่าผู้อื่นผ่านการทำให้ผู้อื่นอับอายหรือทุกข์ทรมาน พฤติกรรมนี้พบได้บ่อยในกลุ่มวัยรุ่นที่ต้องการสร้างอำนาจหรือสถานะทางสังคม

4. การทำร้ายคนอื่นเพื่อชดเชยความรู้สึกด้อยค่า (Inferiority Complex)

พฤติกรรมการใช้ความรุนแรงหรือการข่มเหงอาจเกิดขึ้นจากความรู้สึก ด้อยค่าในตนเอง (Inferiority Complex) ซึ่งเป็นทฤษฎีที่ได้รับการพัฒนาจาก Alfred Adler นักจิตวิทยาที่มีชื่อเสียง เขาอธิบายว่า คนที่รู้สึกด้อยกว่าผู้อื่นหรือไม่มั่นใจในตัวเอง มักจะชดเชยความรู้สึกนี้ด้วยการแสดงพฤติกรรมที่เหนือกว่าหรือควบคุมผู้อื่น ผ่านการใช้ความรุนแรงหรือการข่มเหง การกระทำเช่นนี้ทำให้ผู้กระทำรู้สึกว่า ตนเองมีอำนาจและความมั่นใจเพิ่มขึ้น

5. การขาดความเห็นอกเห็นใจและความรับผิดชอบ (Lack of Empathy and Responsibility)

ในงานวิจัยทางจิตวิทยา มีการค้นพบว่า คนที่มีพฤติกรรมใช้ความรุนแรงหรือข่มเหงผู้อื่นมักขาดความ เห็นอกเห็นใจ (Empathy) ต่อผู้อื่น และไม่รับผิดชอบต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเหยื่อ Simon Baron-Cohen นักจิตวิทยาที่ศึกษาเกี่ยวกับความเห็นอกเห็นใจอธิบายว่า คนที่มีระดับความเห็นอกเห็นใจต่ำมักจะไม่เข้าใจความรู้สึกของผู้อื่นและอาจไม่รู้สึกผิดจากการกระทำของตน ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดพฤติกรรมการทำร้ายร่างกายหรือข่มเหงผู้อื่น

บทสรุป

พฤติกรรมการใช้ความรุนแรงเพื่อแสดงอำนาจมีคำอธิบายในทางจิตวิทยาและอาชญวิทยาหลายประการ เช่น การขาดความเห็นอกเห็นใจ ความรู้สึกด้อยค่าในตนเอง การสร้างลำดับชั้นในสังคม หรือการพยายามควบคุมคนอื่นเพื่อยืนยันสถานะของตน พฤติกรรมเหล่านี้มักส่งผลกระทบทางจิตใจต่อทั้งผู้กระทำและเหยื่อ การเข้าใจที่มาของพฤติกรรมนี้ช่วยให้สังคมสามารถหาทางป้องกันและลดปัญหาความรุนแรงในกลุ่มวัยรุ่นและในที่ทำงานได้

แหล่งอ้างอิง

  • Hirschi, T. (1969). “Causes of Delinquency.”
  • Olweus, D. (1993). “Bullying at School: What We Know and What We Can Do.”
  • Baron-Cohen, S. (2011). “The Science of Evil: On Empathy and the Origins of Cruelty.”
  • Adler, A. (1930). “The Neurotic Constitution.”

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ