การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย “เอเอฟซี เอเชียน คัพ 2023” รอบคัดเลือก ที่ประเทศอุซเบกิสถาน เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ลงสนามนัดที่สองกลุ่มซี พบ ศรีลังกา โดยนัดแรก ไทย เอาชนะ มัลดีฟส์ 3-0 ส่วน ศรีลังกา แพ้ อุซเบกิสถาน 0-3
เกมนี้ ทีมชาติไทย เป็นฝ่ายครองบอลบุกอยู่ฝ่ายเดียวตามคาด แต่หาช่องเจาะอยู่นาน กระทั่งนาที 34 สารัช อยู่เย็น ยกบอลเข้าไปในกรอบให้ พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล ตบกลับมากลางประตู ถึง ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ วิ่งเข้าไปวอลเลย์จังหวะเดียวไม่เหลือ ให้ไทย ออกนำ 1-0 ในครึ่งแรก
ครึ่งหลัง ทีมชาติไทย ยังคงเป็นฝ่ายครองบอลบุกอยู่ฝ่ายเดียวเช่นเดิม แต่กว่าจะหาประตูที่สองได้ ต้องรอจนถึงนาที 90+3 จากการ หลุดเข้าไปยิงของ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ตัวสำรอง ปิดกล่องให้ ทีมชาติไทย เอาชน ศรีลังกา 2-0 เก็บเพิ่มเป็น 6 คะแนน โอกาสผ่านเข้าสู่เอเชียน คัพ รอบสุดท้าย สดใส อยู่ที่จะเป็นอันดับ 1 ของกลุ่ม หรืออันดับ 2 ที่ดีที่สุด 5 ทีมเท่านั้น
นอกจากนั้นจากชัยชนะนัดนี้ ยังทำให้ ทีมชาติไทย รับเงินอัดฉีดจาก “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีม เพิ่มอีก 1 ล้านบาท เป็น 2 ล้านบาทแล้ว โดยนัดต่อไปไทย จะลงสนามพบ อุซเบกิสถาน ในวันที่ 14 มิ.ย. เวลา 22.30 น.
หลังการแข่งขัน มาโน โพลกิ้ง กุนซือทีมชาติไทย เผยว่า “วันนี้เกมออกมาในแบบที่เราคิดเอาไว้ว่า อาจจะอึดอัด ซึ่งเราต้องทำหน้าที่ของเรานั่นคือพยายามจบสกอร์แรกและสองให้ได้”
“พอเราได้ลูกแรกก็อยากได้ลูกที่สองเพื่อปิดเกม แต่ยังทำไม่ได้ทำให้เราต้องเจอสถานการณ์ที่ตึงเครียด แต่สุดท้ายเราก็ทำได้ มันเป็นแนวทางฟุตบอลที่มีโอกาสเป็นแบบนี้ ซึ่งเป้าเราชัดเจนคือเก็บ 6 แต้ม ก็หวังว่า ผลคู่อื่นจะช่วยให้เราผ่านเข้ารอบ แต่ถ้าไม่เราก็พร้อมเจอกับ อุซเบกิสถาน”
“ตอนนี้หน้าที่ของเราตอนนี้สำเร็จแล้วแล้ว จากนี้เรามองไปที่เกมสุดท้ายกับ อุซเบกิสถาน และแน่นอนเราจะเปิดเกมรุกในเกมที่พบพวกเขา เราจะใช้ทีมชุดที่ดีที่สุดพร้อมที่สุด ซึ่งต้องดูกันอีกที แต่เรารู้อยู่แล้วว่า พวกเขาเป็นทีมที่แข็งแกร่ง ซึ่งเราจะเตรียมพร้อมให้ดี และเตรียมผู้เล่นที่ดีที่สุดลงสนาม”
ด้าน ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ กองกลางทีมชาติไทยกล่าวว่า “เรารู้ว่า อุซเบกิสถาน แข็งแกร่ง และได้เล่นในบ้านด้วย แต่เรามาที่นี่เราอยากมีแต้ม และอยากจะวัดมาตรฐานของพวกเราในการเจอกับพวกเขาว่า จะสู้ได้ไหม”
“ผมเชื่อว่า จะเป็นเกมที่สนุก และเราจะสู้อย่างเต็มที่”