มาโน โพลกิง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ประกาศพาทัพช้างศึก เก็บชัยชนะอย่างต่อเนื่องถ้วยซูซูกิ คัพ เชื่อหากไม่ผิดพลาดจะกอดคอสิงคโปร์เข้ารอบรองชนะเลิศ

มาโน โพลกิง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ชาวบราซิเลียน พร้อมด้วย อองตวน เฮย์ กุนซือใหญ่ทีมชาติเมียนมา เข้าร่วมแถลงข่าวความพร้อมฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 ซึ่งทัพช้างศึก จะลงสนามนัดที่สองกลุ่มเอ พบกับทีมชาติเมียนมา วันที่ 11 ธ.ค

ผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย กล่าวว่า “เป็นสัปดาห์ที่ดีสำหรับทีมชาติไทยที่ได้มีเวลาพักอย่างเต็มที่ ได้ตัวผู้เล่นจากเจลีกเข้ามาเสริม ทำให้ตอนนี้พอใจกับคุณภาพของทีมอย่างมาก มีตัวเลือกในการใช้งานมากขึ้นและพร้อมสำหรับการเจอกับเมียนมาแล้ว”

• โจนาธาน เข้าโรงพยาบาลแค่กรดไหลย้อน พร้อมเป็นตัวเลือกทัพช้างศึก

“สภาพร่างกายของอุ้ม (ธีราทร บุญมาทัน) และ เจ (ชนาธิป สรงกระสินธ์) ทั้งคู่ได้ลงเล่นในเจลีกกันมา มีสภาพร่างกายที่ดีมากๆ ตอนนี้อยู่ในช่วงของการหาระบบการเล่นที่ลงตัวสำหรับทีม ด้วยความที่ผู้เล่นในทีมชาติไทยชุดนี้มีคุณภาพมากๆ ทำให้การซ้อมในสัปดาห์นี้เข้มข้น และชื่นชอบการแข่งขันกันเองระหว่างผู้เล่นเพื่อชิงตำแหน่งตัวจริงกัน เป็นเรื่องยากสำหรับผมที่จะตัดสินใจว่าใครจะได้เป็น 11 ตัวจริงในเกมนี้”

“ผมได้ดูฟอร์มของเมียนมาใน 2 เกมที่ผ่านมา พยายามเซ็ตเกมจากแดนหลัง เล่นเกมรุกแล้วกล้าเล่นด้วย ดังนั้นหวังว่าจะเล่นแบบนั้นกับทีมชาติไทยเช่นกัน เพราะจะเปิดพื้นที่ให้ทีมชาติไทยได้เล่นง่ายขึ้น อย่างเกมแรกกับติมอร์ เลสเต ที่เน้นรับอย่างเดียวทำให้เจาะได้ยาก”

“แต่สุดท้ายถึงเมียนมาจะเปิดเกมรุกหรือเล่นเกมรับไม่มีปัญหา เพราะเราได้เตรียมแผนการเล่นเอาไว้แล้ว อย่างไรก็ตามจะไม่ประมาทและหวังว่าจะเก็บชัยชนะในเกมนี้ให้ได้”

“ถ้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศ ทีมจะต้องเล่น 7 เกมใน 20 วัน เป็นช่วงที่ยาวนานมาก ดังนั้นจะต้องมีการจัดการที่ดี บางเกมอาจจะต้องเปลี่ยนออกมาหรือให้พักเป็นสำรอง เพื่อไม่เสี่ยงให้ได้รับอาการบาดเจ็บ นอกจากนี้ยังเชื่อว่าทีมมีผู้เล่นที่ดีมีคุณภาพที่จะทดแทนชนาธิปได้เช่นกัน การเล่นทัวร์นาเมนต์ไม่มีใครลงเล่นได้ตลอดอยู่แล้ว ดังนั้นต้องดูสถานการณ์แต่ละเกมและดูระหว่างซ้อมว่าใครทำได้ดีบ้าง”

“ชนาธิปนั้นเป็นคนที่มีบุคลิกที่ดี เป็นที่รักของทุกคนในทีม สร้างบรรยากาศให้กับทีมดีขึ้น ส่วนคุณภาพฝีเท้าเขาเป็นระดับเจลีก เหนือกว่าไทยลีกอยู่แล้ว การที่ไปเล่นเจลีกทำให้พัฒนาคุณภาพการเล่นขึ้นมาอย่างมาก มีจุดเด่นหลายอย่างที่จะช่วยทีมได้อย่างแน่นอน”

“ส่วนโจนาธาน เข็มดี ที่เพิ่งเข้าโรงพยาบาล เราจะต้องรอเช็กอีกครั้งหนึ่ง รอดูว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง แต่คงบอกไม่ได้ว่าจะได้ลงเล่นในเกมกับเมียนมาหรือไม่”

“สำหรับทีมชาติสิงคโปร์ เป็นทีมที่มีผู้เล่นที่ดี จาก 2 เกมเราได้เห็นพวกเขาสลับผู้เล่นลงเล่น ทำให้เห็นว่ามีคุณภาพในการเล่น แต่สิ่งสำคัญคือเกมของเราเอง มีสมาธิในแต่ละนัดที่ลงเล่น ถ้าเอาชนะทุกเกมได้ มีโอกาสที่จะได้กอดคอเข้ารอบกับสิงคโปร์สูง ดังนั้นเป้าหมายคือเก็บชัยชนะไปทีละเกม ดูกันไปทีละนัด”

โปรแกรมนัดต่อไปทีมชาติไทยจะพบกับเมียนมา ในศึกเอเอฟเอฟซูซูกิ คัพ 2020 รอบแบ่งกลุ่มนัดที่ 2 ที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ ในวันที่ 11 ธ.ค. เวลา 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย