วันที่ 13 กรกฎาคม 2566 ที่ลานเอนกประสงค์ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร พล.ต.ท. ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 ,พล.ต.ท.วรายุทธ สุขวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติรักษาราชการแทนรองผบช.ภ.7,

พล.ต.ต.ดร.จักษ์ จิตตธรรม ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พร้อม พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร ,เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภ.จว.สมุทรสาคร,เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.เมืองสมุทรสาคร,สำนักงานปปส.ภาค7,กอ.รมน.จังหวัดสมุทรสาคร

และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงข่าวตรวจยึด ถุงพลาสติกสีดำ11 กระสอบ ภายในบรรจุ ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 4,570,000 เม็ด

ตํารวจภูธรภาค 7 ตํารวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร สถานีตํารวจภูธรเมืองสมุทรสาคร ได้ทําการสืบสวนหาข่าว เกาะติด และกดดันกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด โดยได้ปฏิบัติการเชิงรุก เข้าตรวจสอบสถานที่ และยานพาหนะต้องสงสัย มาโดยตลอด

จนกระทั่ง เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ของวันที่ 12 ก.ค. 66 เจ้าหน้าที่ตํารวจฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ได้รับแจ้งจาก พลเมืองดีอาชีพขับรถบรรทุกขนส่งสินค้า ว่า ได้รับการว่าจ้างให้ขนส่ง ผักกาดและแก้วมังกร

โดยมีปลายทาง ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยใช้เส้นทางผ่านจังหวัดสมุทรสาคร แต่พบว่าของที่แจ้งว่าเป็นแก้วมังกรนั้น มีการบรรจุหีบห่อ น่าสงสัยคาดว่า น่าจะเป็นยาเสพติด

จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ.เมืองสมุทรสาคร ทราบ เจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ.เมืองสมุทรสาคร จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ร่วมกันตรวจสอบยานพาหนะต้อง สงสัยดังกล่าว

พบว่าสิ่งที่ยานพาหนะดังกล่าวบรรทุกมานั้น เป็นถุงพลาสติก สีดํา ขนาดใหญ่ จํานวน 10 กระสอบ ตรวจสอบภายในบรรจุยาบ้า กระสอบละ 432,000 เม็ด รวมเป็นจำนวน 4,32,000 เม็ด

และ ถุงพลาสติกสีดําขนาดเล็ก จํานวน 1 กระสอบ ตรวจสอบภายในบรรจุยาบ้า จํานวน 250,000 เม็ด รวมยาบ้า จํานวน 4,570,000 เม็ด คิดเป็นมูลค่าประมาณ 120ล้านบาท

สอบถามพลเมืองดีผู้ขับขี่ ยานพาหนะต้องสงสัยดังกล่าว แจ้งว่า ได้รับการว่าจ้างให้ขนส่งผักกะหล่ำและผักกาดขาว ไปส่งที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จากชายไทยไม่ทราบชื่ออายุประมาณ 40 ปี

โดยชายดังกล่าวได้ฝากสินค้าเพิ่มไปด้วย ได้ตกลงราคาค่าขนส่งเป็นเงิน 20,000 บาท จากนั้นชายดังกล่าวได้ให้คนงานขนถุงพลาสติกสีดําขนาดใหญ่จํานวน 10 กระสอบ และ ถุงพลาสติกสีดํา ขนาดเล็กจํานวน 1 กระสอบ ขึ้นรถบรรทุกของตน

โดยจ่ายค่าจ้างจํานวน 10,000 บาท ก่อน เมื่อส่งสินค้าเสร็จเรียบร้อย แล้วจะจ่ายเงินค่าจ้างส่วนที่เหลือเจ้าหน้าที่ตํารวจจึงได้ทําการตรวจยึดไว้เป็นของกลางนําส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร และได้สืบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน

จนกระทั่งทราบตัวผู้ต้องหาซึ่งเป็นเจ้าของยาเสพติดในคดีนี้ จึงได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับ ซึ่ง ศาลจังหวัดสมุทรสาครได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาแล้ว

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตํารวจอยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัว และอยู่ ระหว่างขยายผลไปยังเครือข่ายผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักลอบขนส่งยาเสพติดในครั้งนี้ เพื่อนําตัวมาดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป