มาทำบุญเพิ่งออกจากวัด เก๋งป้ายแดงถูกรถไฟชนท้ายพังยับ เจ็บ 1 สาหัส 1

Home » มาทำบุญเพิ่งออกจากวัด เก๋งป้ายแดงถูกรถไฟชนท้ายพังยับ เจ็บ 1 สาหัส 1



มาทำบุญเพิ่งออกจากวัด เก๋งป้ายแดงถูกรถไฟชนท้ายพังยับ เจ็บ 1 สาหัส 1

หนุ่มสาวทำบุญวัดดังเมืองอุดรฯ ขากลับขับเก๋งป้ายแดงข้ามทางรถไฟไม่พ้น ถูกชนท้ายกระเด็นพังยับ สาวคนขับสาหัส ส่วนหนุ่มนั่งหลังบาดเจ็บเล็กน้อย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (17 เม.ย.) เมื่อเวลา 17.20 น. ร.ต.อ.อดุลย์ชัย ขาวขำ ร้อยเวร สภ.เพ็ญ ได้รับแจ้งเหตุรถไฟชนรถเก๋ง บริเวณทางลักผ่านทางข้ามรถไฟ หน้าวัดป่าศรีจันทร์ บ.โพธิ์ตาก ต.นาพู่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย

หลังเกิดเหตุ นายวอำนวย ดินทรธิราช นายก อบต.นาพู่ พร้อม หน่วยกู้ชีพ อบต.นาพู่ ได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ เพื่อให้การช่วยเหลือ ก่อนนำผู้บาดเจ็บทั้ง 2 เปลี่ยนถ่ายขึ้นรถมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถานนำส่งโรงพยาบาลอุดรธานี 

ที่เกิดเหตุพบซากรถเก๋ง ฮอนด้า ซีวิค สีดำ ทะเบียนป้ายแดง หมายเลข 6141 กรุงเทพมหานคร สภาพถูกรถไฟชนพังยับทั้งคัน มีร่องรอยถูกชนด้านท้ายขวา จนล้อรถหลุดกระเด็นออกมา และเครื่องยนต์หลุดออกจากตัวรถ ส่วนรถไฟคู่กรณีไม่ได้รับความเสียหากมากนัก หลังเกิดเหตุเดินทางต่อไปยัง จ.หนองคาย  

ร.ต.อ.อดุลย์ชัย ขาวขำ ร้อยเวร สภ.เพ็ญ เปิดเผยว่า ผู้บาดเจ็บรายแรกชื่อ นางสาวนงลักษณ์ อายุ 39 ปี เป็นคนขับรถ อาการสาหัส และ นายพิชามญชุ์ อายุ 24 ปี บาดเจ็บเล็กน้อย รถไฟที่ชนเป็นรถดีเซลราง ขบวนที่ 75 กทม.–หนองคาย

จากการสอบถาม นางนง อายุ 60 ปี เปิดเผยว่า ตนเป็นลูกศิษย์วัดมาช่วยงานวัดป่าศรีจันทร์เป็นประจำ มีหน้าที่ดูแลให้บริการผู้จิตศรัทธาบูชาดอกไม้ธูปเทียน ก่อนเกิดเหตุผู้บาดเจ็บทั้ง 2 เดินทางมาที่วัดประมาณ 16.00 น.

นำน้ำดื่มมาถวายวัด และเข้าไปกับกราบหลวงพี่ต่อ จันทโสภโณ พระที่ดูแลวัดและมีลูกศิษย์มาหาอยู่ประจำ ซึ่งเคยเห็นทั้ง 2 คน มาที่วัดอยู่บ้างแต่ไม่บ่อย หลังจากกราบพระเสร็จทั้ง 2 ก็เดินมาร่ำลา และบอกว่าวันที่ 24 เม.ย.จะกลับมาอีก ก่อนขับรถกลับออกไป  

“รถเก๋งเลี้ยวขวาออกจากวัดไป มุ่งหน้าข้ามทางรถไฟจะออกไปยังถนนมิตรภาพ ไม่นานได้ยินเสียงโครมดังสนั่นหวั่นไหว ตอนเรียกคิดว่าเป็นรถจักรยานยนต์โดนรถไฟชนเหมือนครั้งก่อนๆ รีบวิ่งออกไปดูกันทั้งวัด และเข้าให้การช่วยเหลือ พบว่าผู้หญิงคนขับมีอาการสาหัสมากกว่าสาวประเภทสองคนนั่งข้าง เพราะสาวประเภทสองยังคงสื่อสารตอบโต้กันได้อยู่ จนกระทั่งรถกู้ชีพมาถึง ตนและคนอื่นๆ จึงเดินกลับเข้าวัด แต่ก็ยังตกใจกลับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่” นางนง กล่าว

ด้าน นายอำนวย อินทรธิราช นายก อบต.นาพู่ เปิดเผยว่า รถไฟที่ชนมาจากทางอุดรธานี ส่วนรถเก๋งเป็นผู้หญิงขับ ส่วนผู้ชายนั่งข้างหลัง และไม่ใช่เป็นคนในพื้นที่ คาดว่าไม่ชินเส้นทาง โดยทั้ง 2 ขับรถออกจากวัดเลี้ยวขวาขึ้นมาข้ามทางรถไฟที่เป็นเนิน

โดยรถเกือบจะพ้นแล้ว แต่รถไฟมาถึงพอดีและชนด้านท้ายรถเก๋งกระเด็นตกลงไปข้างทางจนรถพังเสียหาย ซึ่งที่เกิดเหตุตรงนี้เป็นทางลักผ่าน ที่ทาง รฟม.ยังไม่อนุมัติให้ใช้เป็นทางผ่าน ซึ่งอยู่ในระหว่างจากดำเนินการขอจากทาง รฟท. 

ทั้งนี้ จุดกล่าวเป็นทางลักผ่าน ไม่มีแผงกั้นเหมือนทางข้ามที่ถูกต้อง เป็นเส้นทางลัดระหว่างบ้านเม่นไปบ้านนาพู่ มักจะเกิดอุบัติเหตุรถไฟชนรถที่สัญจรไปมาอยู่บ่อยครั้ง แม้จะมีป้ายเตือนและไฟวิบวับ และเป็นจุดตั้งด่านรณรงค์อุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา และส่วนใหญ่รถที่ประสบอุบัติเหตุจะเป็นรถจากต่างถิ่น ครั้งนี้ก็เช่นกัน

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ