มาดามเดียร์ ยันเคารพเสียงข้างมาก พรรคการเมืองที่ได้เสียงเป็นอันดับ1 จะต้องจัดตั้งรัฐบาล แนะก้าวไกลปิดความเสี่ยง ไม่อยากเห็นประเทศมันวนกลับไปสู่การรัฐประหาร

วันที่ 16 พ.ค 66 ข่าวสดออนไลน์เชิญ 2 นักการเมือง อย่าง นายธีรัจชัย พันธุมาศ จากพรรคก้าวไกล และ น.ส.วทันยา บุนนาค จากพรรคประชาธิปัตย์ มาพูดคุยในรายการอยากมีเรื่องคุย ประเด็น ส.ว.ต้องฟังเสียงประชาชน..ไหม? หลังจากผลเลือกตั้งออกมา พรรคก้าวไกลมาแรงได้ ส.ส.มากสุด 152 เสียง กลายเป็นพรรคอันดับ 1 และตามมาด้วยหน้าที่จัดตั้งรัฐบาล ท่ามกลางกระแสเรียกร้องให้ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งช่วยกันโหวตนายกฯ โดยไม่ต้องคำนึงจะได้ร่วมรัฐบาลหรือไม่

น.ส.วทันยา กล่าวว่า การจะโหวต พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกฯ หรือไม่ ก็ต้องตามหลักคณะผู้บริหารพรรคชุดใหม่ และ ส.ส. ที่ผ่านการเลือกตั้ง 25 คน ทางพรรค ปชป. มีจุดยืนที่ทำมาโดยตลอดคือยึดหลักพรรคการเมืองที่ได้เสียงเป็นอันดับ1 จะต้องจัดตั้งรัฐบาล เพราะทางเราใช้วิธีเคารพกติกาของประชาธิปไตย

เมื่อถามว่า มีข้อเรียกร้องพรรคการเมืองมาร่วมโหวตให้ พิธา เป็นนายกฯ เพื่อปิดสวิตช์สว. มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน นายธีรัจชัย กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ เพราะมันถึงจุดที่เปลี่ยน แล้วฉันทามติในครั้งนี้มันชัดว่าประชาชนไม่ต้องการการเมืองแบบเดิม ตนมองว่าถ้าพรรคการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้านเดิม ที่ต้องการหลุดพ้นจากอำนาจที่ไม่ได้มาจากประชาชน มาร่วมกันโหวตเอาพรรคที่มีเสียงข้างมากมาเป็นรัฐบาล เพื่อสร้างกลไกประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง แล้วอำนาจในการรัฐประหารก็จะสิ้นสุด ก้าวไกลไม่ได้ต้องการแค่เปลี่ยนตัวรัฐบาลหรือผู้นำ แต่เราต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศให้สู่ประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

ด้าน น.ส.วทันยา กล่าวว่า ตนว่าเป็นไปได้โดยหลักการ และยึดมั่นว่าพรรคการเมืองเราคือองค์กรสถาบันที่เสนอตัวมาเป็นตัวแทนประชาชนที่อยู่ตามครรลองระบอบประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นเราต้องเคารพในกติการะบอบประชาธิปไตย คือการฟังและยอมรับเสียงข้างมากที่มาจากอํานาจอธิปไตยของประชาชน สิ่งที่ตนอยากจะเสนอมากกว่า หากมองย้อนกลับไปในการจัดตั้งรัฐบาลในแต่ละครั้ง ก็จะมีตัวแทนพรรคการเมืองที่เป็นแกนนำ อย่างเช่นการเมืองตั้งเมื่อปี 2562 ทั้งฝ่ายค้านเดิมหรือรัฐบาลเดิมในชุดที่แล้ว ก็จะมีการเดินสายเทียบเชิญพรรคการเมืองต่างๆ เข้ามาร่วมในการทำงานกับรัฐบาล

ตนคิดว่าตรงจุดนี้จะเป็นอีกหนึ่งส่วนที่พรรคที่เป็นแกนนำมีความชอบธรรมในการจัดตั้ง และเชื่อว่าทุกคนพร้อมที่จะน้อมรับอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเราจะทำให้การจัดตั้งรัฐบาลมันดำเนินการไปอย่างไรเพื่อให้มันเกิดการราบรื่นมากที่สุด ตนอยากเห็นประเทศไทยเราจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จได้โดยเร็ว

เมื่อถามว่า สว.บางส่วนตั้งธงโหวต พิธา เป็นนายกฯ หากสว. ทำให้ไม่สามารถโหวตนายกได้ สถานการณ์ในอนาคตจะเป็นอย่างไร จะถึงทางตันมั้ย น.ส.วทันยา กล่าวว่า ตนคิดว่าอย่าทำให้มันไปถึงทางตันขนาดนั้น ไม่คิดว่ามันจำเป็นจะต้องเดินไปสู่ทางนั้นทางเดียว กรณีสว.บางท่านออกมาให้ความเห็นเป็นการส่วนตัว ตนเชื่อว่าหลายท่านไม่ได้ปฏิเสธคุณพิธาโดยสิ้นเชิง ตนมั่นใจว่าจากที่พูดคุยกับสมาชิกหลายท่านเขาก็มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันกับตน

ถ้าตนอยู่พรรคก้าวไกล จะยกขบวนขันหมากไปคุยแต่ละพรรคการเมือง ตนเชื่อมั่นว่าแม้พรรคการเมืองที่ไม่ได้จะมาเป็นรัฐบาล แต่อย่างแรกเขาต้องแสดงสปิริตของน้ำใจนักกีฬา แม้ว่าจะแพ้การเลือกตั้ง แต่การเคารพเสียงข้างมากก็เป็นจุดยืนของพรรค เชื่อว่าถ้าพรรคก้าวไกล ได้มีการเทียบเชิญได้ให้เกียรติแสดงวุฒิภาวะของการเป็นผู้นำตรงนี้ จะทำให้บรรยากาศการเมืองมันเปลี่ยนไปสู่ในความราบรื่น

เมื่อถามว่าถ้าสุดท้ายแล้ว สว.ไม่ยอมโหวต พรรคการเมืองอื่นก็ไม่ยอมโหวตให้ จะหาทางออกยังไง น.ส.วทันยา กล่าวว่า ถ้าตนเป็นก้าวไกล ตนจะปิดความเสี่ยงในทุกทางที่จะนำไปสู่เงื่อนไขในการจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ เพราะฉะนั้นแนวทางการเมืองในด้านหนึ่ง ต่อให้ที่ต่างประเทศมีการสู่รบกัน สุดท้ายแล้วทุกสงครามมันก็จบด้วยการเจรจา การพูด ไม่ใช่การใช้กำลัง ตนก็อยากเห็นก้าวไกลยึดในหลักการตรงนี้เพื่อทำให้การเปลี่ยนผ่านไปโดยความราบรื่น

เพราะว่าในฐานะประชาชนคนหนึ่งก็ไม่อยากให้ประเทศอยู่ในสภาวะสุญญากาศ เพราะมันมีปัญหาต่าง ๆ ทั้งเศรษฐกิจ และปัญหาปากท้อง ที่รอให้รัฐบาลชุดหน้ามาบริหารเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง อยากเห็นประเทศเดินหน้าไปอย่างความเสถียรภาพ ตนไม่อยากเห็นประเทศมันวนกลับไปสู่ในจุดที่อาจจะทำให้เกิดการใช้จังหวะที่นำมาสู่การรัฐประหาร ต่อให้ 250 สว.จะไม่โหวตให้ ตนก็ยังยืนยันในหลักการว่านี่ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะนำไปสู่การรัฐประหารอยู่ดี

ด้าน นายธีรัจชัย กล่าวว่า ขอบคุณที่ คุณวทันยา แสดงออกแบบนี้ เพราะมันตรงกับสิ่งที่ก้าวไกลทำ เชื่อว่าถ้าพรรคประชาธิปัตย์ มีความเห็นแบบนี้ ขอบคุณที่แสดงจุดยืนอย่างชัดเจน ตนเชื่อว่ามันคือการมีจุดยืนทางด้านประชาธิปไตยเหมือนกัน เรามองตรงกัน หากพรรคใดฝ่าฝืนมติประชาชนตรงนี้ก็ถือว่าเป็นการทำร้ายตัวเอง