ชายใช้เครื่องตรวจจับโลหะ ขุดเจอก้อนทองคำมูลค่า 1.4 ล้านบาท ทั้งที่ไปช้ากว่าใครเพื่อน แถมใช้เครื่องรุ่นเก่าที่ทำงานไม่เต็มร้อย
เว็บไซต์ The Guardian รายงานว่า นักล่าเศษโลหะได้ใช้เครื่องตรวจโลหะ ขุดเจอก้อนทองคำหนักประมาณ 65 กรัม มูลค่ากว่า 300,000 ปอนด์ (ประมาณ 1.4 ล้านบาท) ถือเป็นการขุดพบก้อนทองตำที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ แม้ว่าเขาจะมาสายกว่า 1 ชั่วโมง และใช้เครื่องตรวจจับโลหะรุ่นเก่าก็ตาม
รายงานเผยว่า นายริชาร์ด บร็อค วัย 67 ปี นักตรวจจับโลหะ ได้ขุดพบก้อนทองคำนี้ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2566 หลังเขาร่วมกิจกรรมกับกลุ่มเพื่อนที่ไร่แห่งหนึ่งในโชรปเชอร์ฮิลส์ เขตเวสต์มิดแลนด์ของอังกฤษ
นายบร็อค เผยว่า เขาเริ่มต้นตรวจหาโลหะตามพื้นดินมาตั้งแต่ปี 2543 ซึ่งปัจจุบันเข้าปีที่ 35 แล้ว โดยเขาตัดสินใจออกทริปในครั้งนี้ เพราะว่าทริปที่ออสเตรเลียโดนยกเลิกไปในช่วงที่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19
ในตอนแรกดูเหมือนโชคไม่เข้าข้าง เขาไปถึงที่หมายช้ากว่าเพื่อน 1 ชั่วโมง และยังต้องใช้เครื่องมือตรวจจับโลหะรุ่นเก่าที่ทำงานไม่ได้เต็มร้อย เพราะหน้าจอแสดงผลการตรวจของเครื่องให้ภาพไม่ชัด ตรวจจับได้เพียงหมุดปักเต็นท์เก่า ๆ ที่ขึ้นสนิมแล้ว 2-3 อัน
แต่เมื่อเวลาผ่านไปราว 20 นาที เขาก็ต้องดีใจอย่างมาก เมื่อเขาพบก้อนทองฝังอยู่ใต้ดินที่ความลึกประมาณ 5-6 นิ้ว ซึ่งหลังจากตรวจสอบแล้ว พบว่ามีน้ำหนักมากถึง 64.8 กรัม (ประมาณ 2.28 ออนซ์)
หลังจากขุดพบทองก้อนนี้ นายบร็อคต้องรอให้มีการพิสูจน์และรับรองว่าเป็นทองจริง ๆ ทำให้เขาเพิ่งมีโอกาสนำทองก้อนนี้ออกมาขาย และกลายเป็นข่าวดังเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
ส่วนที่มาของทองก้อนนี้ว่ามันมาอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวได้อย่างไรนั้น มีการสันนิษฐานว่าบริเวณนั้นอาจเป็นพื้นที่เก่าแก่โบราณ คาดว่าเป็นถนนหรือเส้นทางรถไฟเก่าที่บรรทุกหินที่ขุดออกมาจากเหมืองที่แคว้นเวลส์ ซึ่งเคยเป็นเหมืองทองคำมาก่อน
ด้าน นายมัลล็อค โจนส์ ผู้จัดประมูลและผู้ยื่นข้อเสนอนำก้อนทองของนายบร็อคออกประมูล คาดว่าก้อนทองคำนี้น่าจะประมูลได้ในราคาไม่ต่ำกว่า 30,000 ปอนด์ (ประมาณ 1.4 ล้านบาท)
ทั้งนี้ นายบร็อค ทิ้งท้ายกับสื่อว่า หลังจากประมูลเสร็จสิ้น เขาจะแบ่งเงินส่วนหนึ่งให้กับเจ้าของที่ดินที่เขาขุดเจอทองด้วย