จากกรณีวันที่ 27 ก.ค. 2567 เหตุทางเพจสายไหมต้องรอด พาคุณยายวัย 72 ปี ถูกเจ้าหนี้นอกระบบดอกร้อยละ 30 รุมทำร้าย หลังจากที่เจ้าหนี้ไม่สามารถทวงเงินจากลูกหนี้อีกรายได้ คุณยายสิริเพ็ญแจ้งความมาแล้ว 7 วัน แต่ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ล่าสุดวันนี้ 28 ก.ค. 2567 ผู้ก่อเหตุทั้ง 4 ได้เข้ามอบตัว ด้านตำรวจแจ้ง 6 ข้อหา พร้อมคัดค้านประกันตัว ส่งฝากขังศาลอาญา
เมื่อเวลา 10.00 น. (28 ก.ค. 2567) สน.โชคขัย พลตำรวจตรี ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 (ผบก.น.4) เปิดเผยว่า หลังจากที่ผู้เสียหายไปร้องขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด ฝ่ายสืบสวนและฝ่ายสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและข้อมูล จนสามารถพิสูจน์ทราบอัตลักษณ์บุคคลทั้ง 4 คน ได้แก่นายโสภณ หรือ อ๊อฟ อายุ 27 ปี, นายเคนวิทย์ หรือ เคน อายุ 32 ปี, นายนัฐวุฒิ หรือ ไอซ์ อายุ 27 ปี และนายศิริศร หรือโบ้ อายุ 25 ปี จากนั้นพนักงานสอบสวนได้ประสานและกดดันทางญาติของผู้ต้องหา จนทำให้ผู้ต้องหาเดินทางเข้ามามอบตัวเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา
โดยจากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 4 คนอ้างว่า ตนทำร้ายร่างกายคุณยายเป็นครั้งแรก เนื่องจากรู้สึกไม่พอใจที่คุณยายจ่ายหนี้ไม่ตรงตามเวลา เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้ง 6 ข้อกล่าวหากับนายอ๊อฟ และนายเคน ได้แก่
- ร่วมกันประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับโดยไม่ได้รับอนุญาต
- ร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินอันมีลักษณะเป็นการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้
- ร่วมกันกระทำการทวงถามหนี้ ในลักษณะข่มขู่ การใช้ความรุนแรง หรือการกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกาย ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของลูกหนี้หรือผู้อื่น
- ร่วมกันทวงถามหนี้กับบุคคลอื่นซึ่งมิใช่ลูกหนี้
- ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ
- ร่วมกันทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ โดยนายอ๊อฟ ผู้ต้องหาที่ 1 ให้ตารับสารภาพตามข้อกล่าวหา แต่ให้การปฏิเสธในข้อหาร่วมกันทวงถามหนี้กับบุคคลอื่นซึ่งไม่ใช่ลูกหนี้
ด้านนายเคนผู้ต้องหาที่ 2 ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และนอกจากนี้ยังพบประวัติ เคยถูกดำเนินคดีในลักษณะการทวงหนี้โดยใช้ความรุนแรง เมื่อปี 2561 ในพื้นที่ สน.ฉลองกรุง ปี 2566 ในพื้นที่ สน.จรเข้น้อย และ สน.ทุ่งสองห้อง
ส่วนนายไอซ์ และนายโบ้ ผู้ต้องหาที่ 3 และ 4 ตามลำดับ ถูกแจ้ง 4 ข้อกล่าวหา ได้แก่
- ร่วมกันกระทำการทวงถามหนี้ ในลักษณะข่มขู่ การใช้ความรุนแรง หรือการกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกาย ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของลูกหนี้หรือผู้อื่น
- ร่วมกันทวงถามหนี้กับบุคคลอื่นซึ่งมิใช่ลูกหนี้
- ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ
- ร่วมกันทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ
ซึ่งผู้ต้องหาที่ 3 และที่ 4 ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
นอกจากนี้ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 กล่าวต่อว่าจากข้อมูลที่มีอยู่ขณะนี้ทราบตัวแล้วว่าเจ้าของเครือข่ายปล่อยเงินกู้นอกระบบที่แท้จริงเป็นใคร โดยบุคคลดังกล่าวเป็นคนที่มีหมายจับของสน.มีนบุรี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี
- ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ยายวัย 72 ร้อง สายไหมต้องรอด โดนเจ้าหนี้กู้นอกระบบ รุมทำร้ายร่างกาย
ส่วนเรื่องที่สังคมมองว่าตำรวจทำงานล่าช้า ยืนยันว่าเป็นการเข้าใจผิด เพราะหลังจากที่ยายมาแจ้งความเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้ให้คุณยายไปทำการตรวจร่างกายเพื่อนำความเห็นจากแพทย์มาประกอบสำนวนในคดี และได้นัดหมายคุณยายมาสอบปากคำในวันที่ 26 กรกฎาคม แต่ทางคุณยายผู้เสียหายอาจจะยังไม่ทราบ จึงมองว่าคดีไม่มีความคืบหน้าจนต้องไปร้องขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด
ต่อมาในเวลาไล่เลียกัน พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ไปขออำนาจศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ฝากขังในผัดแรก โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติกรรมใช้ความรุนแรง และเกรงว่าผู้ต้องหาจะมายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หากได้รับการประกันตัวชั่วคราว