มติป.ป.ช. ยอมเปิดข้อมูลคดีนาฬิกาหรู บิ๊กป้อม แค่ 2 รายการ แต่ไม่ให้ความเห็นจนท.

Home » มติป.ป.ช. ยอมเปิดข้อมูลคดีนาฬิกาหรู บิ๊กป้อม แค่ 2 รายการ แต่ไม่ให้ความเห็นจนท.


มติป.ป.ช. ยอมเปิดข้อมูลคดีนาฬิกาหรู บิ๊กป้อม แค่ 2 รายการ แต่ไม่ให้ความเห็นจนท.

ป.ป.ช.มีมติเอกฉันท์ เปิดข้อมูลคดีนาฬิกา ‘บิ๊กป้อม’ 2 รายการ สำนวนการไต่สวน-รายงานประชุม แต่ไม่ให้ความเห็นจนท. ระบุ มีกม.ข้อมูลข่าวสารคุ้มครอง

เมื่อวันที่ 3 พ.ค.66 นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. กล่าวชี้แจงถึงมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการเปิดเผยข้อมูลกรณีศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กรณีจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินอันเป็นเท็จ ให้แก่นายวีระ สมความคิด ตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้รับทราบคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด เมื่อวันที่ 25 เม.ย.66 และมีการหารืออย่างไม่เป็นทางการโดยไม่ได้มีมติ และได้มอบให้สำนักคดี สำนักกฎหมายและเจ้าหน้าที่นำคำพิพากษาไปศึกษา วิเคราะห์ และนำเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาอีกครั้ง

ต่อมา ในวันที่ 3 พ.ค. คณะกรรมการ ป.ป.ช. ประชุมพิจารณา และมีมติเป็นเอกฉันท์ 6 เสียงว่า ให้เปิดเผยเอกสาร รายการที่ 1 รายงานและสำนวนการตรวจสอบ การไต่สวนและการไต่สวนเบื้องต้น รวมทั้งเอกสารที่เกี่ยวข้อง รายการการแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานเอกสารทั้งหมด และเอกสารรายการที่ 3 รายงานการประชุมของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้

นายนิวัติไชย กล่าวว่า สำหรับเอกสารรายการที่ 2 ความเห็นของพนักงานเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ทุกคนที่รับผิดชอบเรื่องนี้ มีมติเป็นเอกฉันท์ 6 เสียง ว่า การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว อาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการป.ป.ช. พนักงานไต่สวน พนักงานเจ้าหน้าที่ รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ปรึกษา ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก ผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการมาช่วยปฏิบัติงานภายใต้กรอบอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. อันเป็นการคุ้มครองข้อมูลข่าวสารที่พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 มาตรา 15 ให้ความคุ้มครอง

สอดคล้องกับมาตรา 36 วรรคท้ายของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ประกอบกับศาลปกครองสูงสุด เคยมีคำพิพากษาให้การรับรองคุ้มครองการเปิดเผยข้อมูลในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว

ดังนั้น จึงมีมติมอบให้สำนักคดีนำคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่เคยมีคำพิพากษาคุ้มครองการเปิดเผยข้อมูล พร้อมประเด็นปัญหา ไปหารือเกี่ยวกับการปฏิบัติตามคำสั่งของศาลปกครองสูงสุดดังกล่าว รวมถึงปัญหาข้อขัดข้องกับตุลาการศาลปกครองสูงสุดต่อไป ทั้งนี้ นายวีระ สามารถยื่นขอรับเอกสารที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้เปิดเผย ทั้ง 2 รายการ ตามเอกสารรายการที่ 1 และเอกสารรายการที่ 3 ได้ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.66 เป็นต้นไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ