ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมติชน อนุมัติจ่ายปันผล 0.45 บาท/หุ้น “ปานบัว” เผยทิศทางปี’65 เดินหน้าค้าปลีกในโมเดิร์นเทรด-อีคอมเมิร์ซ-สร้างพันธมิตรธุรกิจ ช่วยดันรายได้อีเวนต์

เมื่อวันที่ 27 เม.ย.65 บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) จัดการประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นประจำปี ครั้งที่ 1/2565 ซึ่งผู้ถือหุ้นมีมติให้ความเห็นชอบอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.45 บาท จากกำไรสุทธิ โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นที่ปรากฏรายชื่อในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 9 พฤษภาคม 2565 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 25 พ.ค.65

น.ส.ปานบัว บุนปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ชี้แจงที่ประชุมผู้ถือหุ้นว่า ภาพรวมของสถานการณ์ ปี 2565 มีแนวโน้มว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจจะเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ หลังจากเผชิญสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ดังนั้นบริษัทฯ จะดำเนินแผนธุรกิจสำคัญ 3 ด้าน คือ ธุรกิจค้าปลีกในโมเดิร์นเทรด ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และการสร้างพันธมิตรองค์กร

ในด้านธุรกิจค้าปลีก บริษัทฯเห็นโอกาสจากความตื่นตัวของกระแสการอ่านหนังสือ ทั้งในส่วนของ ต้นทางคือการผลิตต้นฉบับพ็อกเก็คบุ๊คที่มีคุณภาพทั้งเชิงเนื้อหา และการออกแบบอย่างคึกคัก และในส่วนปลายทาง ซึ่งเกิดการขยายตัวของกลุ่มนักอ่านรุ่นใหม่ ตลาดหนังสือจึงต้องพัฒนา ช่องทางการจัดจำหน่ายที่แข็งแรงขึ้นมารองรับ เพื่อเสริมหรือชดเชยช่องทางเดิม ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 และภาวะเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา

น.ส.ปานบัว กล่าวต่อว่า มติชนจึงร่วมมือกับพันธมิตรโมเดิร์นเทรด คือ บริษัท ซี.เจ. เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป จำกัด เปิดแผงหนังสือบาวบุ๊ค แผงหนังสือคู่ชุมชนในซีเจ ซูเปอร์มาร์เก็ต จำนวน 20 สาขา เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งจะเพิ่มเป็น 200 สาขาภายในสิ้นปี 2565 และขยายเป็น 700 สาขาภายในปี 2567

ในด้านกลยุทธ์อีคอมเมิร์ซ มติชน ร่วมกับ บริษัท ท็อปแวลู คอร์ปอเรท จำกัด เพื่อจำหน่ายสินค้าเทคโนโลยี เครื่องใช้สำนักงาน และผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม ผ่านช่องทาง เฟซบุ๊กข่าวสดและไลน์ข่าวสด ที่มีผู้ติดตามกว่า 20 ล้านราย เป็นการพัฒนาศักยภาพการขายสินค้าจากช่องทางออนไลน์ ที่สอดคล้องพฤติกรรมการช้อปปิ้งของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล

น.ส.ปานบัว กล่าวว่า ในส่วนกลยุทธ์พันธมิตรองค์กรนั้น มติชนมุ่งเสริมสร้างความร่วมกับองค์กรต่างๆ เพื่อร่วมสร้างกิจกรรมทางธุรกิจ ล่าสุดร่วมกับ บริษัท ทัวร์เอื้องหลวง จำกัด และสายการบินไทยสมายล์แอร์เวย์ ลงนามข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ

พร้อมเปิดตัวโปรเจกต์พิเศษ “เที่ยวล่อง ท่องตำนาน” กับ 3 เส้นทางพิเศษ ได้แก่ ชวนเที่ยวเมืองสุพรรณฯ เล่าวรรณกรรม “ขุนช้าง-ขุนแผน” จังหวัดสุพรรณบุรี, ทัวร์ชมมรดกโลก แห่งลังกาทวีป ณ ประเทศศรีลังกา (โคลัมโบ แคนดี้ ดัมบุลลา สิกิริยา) และพาเลาะริมโขงตามตำนาน ‘อุรังคธาตุ-พญานาค-ศรีโคตรบูร’ จังหวัดนครพนม-สกลนคร

ขณะเดียวกันนิตยสารศิลปวัฒนธรรม ในเครือมติชน นิตยสารศิลปวัฒนธรรมจะถูก นำไปวางให้บริการผู้โดยสารชั้น 1 บนเครื่องเครื่องโบอิ้ง 777 เที่ยวบินกรุงเทพ-ลอนดอน ของการบินไทย

กรรมการผู้จัดการ กล่าวต่อว่า มติชนเริ่มปรับโครงสร้างองค์กร และโครงสร้างรายได้ธุรกิจ อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ 2560 ส่งผลให้สามารถปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี จนสามารถก้าวสู่ความเป็นผู้นำในสื่อออนไลน์ แม้จะต้องเผชิญสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ต่อเนื่องในช่วงปี 2563-2564 ก็ยังสร้างผลประกอบการตามเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้

“มติชนทำงานร่วมกับแพลต์ฟอร์มระดับโลก เช่น เฟซบุ๊ก ยูทูบ ในฐานะพันธมิตร ที่พัฒนาธุรกิจร่วมกัน การเปลี่ยนผ่านไปสู่เทคโนโลยีดิจิทัล (ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น) ของเครือมติชน แปลงสู่การสร้างรายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยรายได้โฆษณานิวมีเดีย ในปี 2564 มีสัดส่วน 67% ของรายได้โฆษณารวม เทียบกับ 52% ในปี 2563 ซึ่งเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและชัดเจนในช่วงที่มีโควิด-19

ในขณะเดียวกับการฟื้นตัวของกิจกรรมเศรษฐกิจในปี 2565 จะเป็นโอกาสในการสร้างรายได้จากการจัดกิจกรรมอีเวนต์ อาทิ งานมหกรรมอาหาร งานเกษตรมหัศจรรย์ งานเฮลท์แคร์ งานสัมมนาต่างๆ การจัดทัวร์วัฒนธรรม รวมถึงการขายหนังสือพ็อกเก็คบุ๊คในงานแฟร์หนังสือ ซึ่งล้วนแต่เป็นช่องทางรายได้สำคัญ” กรรมการผู้จัดการ มติชน กล่าว