มงคลกิตติ์ เชื่อไทยไม่ได้เรือดำน้ำจีนแน่ แนะ บิ๊กตู่ ใช้เวทีเอเปค คุย ‘สี จิ้นผิง’ ยกเลิกสัญญาซื้อเรือดำน้ำ-คืนเงิน ชี้ช่องเจรจาซื้อเรือดำน้ำมือสองใช้แทน
เมื่อวันที่ 15 พ.ย.2565 ที่รัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า จากการตรวจสอบการจัดซื้อเรือดำน้ำจากประเทศจีน ซึ่งตามสัญญา รัฐบาลจีนจะจัดส่งเรือดำน้ำลำแรกให้กับประเทศไทย ในช่วงเดือนเม.ย. 2567 แต่ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากรัฐบาลเยอรมันไม่สามารถขายเครื่องยนต์ MTU ที่ใช้ติดตั้งในเรือดำน้ำของจีนได้ และขณะนี้รัฐบาลไทยชำระเงินไปแล้วทั้งสิ้น 7,000 ล้านบาท
ดังนั้น ตนขอเสนอให้รัฐบาลยกเลิกสัญญาดังกล่าวกับจีน และเจรจากับ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่เดินทางมาร่วมประชุมเอเปค วันที่ 18-19 พ.ย. แบบนอกรอบหรือพหุภาคี ยกเลิกการจัดซื้อเรือดำน้ำ รุ่น S26T และคืนเงินให้รัฐบาลไทย แต่เพื่อไม่ตัดสายสัมพันธ์ทางการทหาร ให้เจรจาซื้อเรือดำน้ำมือสองจากจีน ซึ่งติดตั้งเครื่องยนต์ MTU ราคา ลำละ 300-400 ล้านบาท
ขณะเดียวกันให้เจรจาขอซื้อเรือดำน้ำสัญชาติอเมริกัน และรัสเซีย มือสองที่ใช้การได้ ให้มาประจำการที่ไทย เพราะหากรอเวลาต่อเรือดำน้ำมือหนึ่ง จะใช้เวลาประมาณ 6-7 ปี ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับสถานการณ์