ภูเก็ต เตรียมพร้อมรับเรือสำราญ ขนาดใหญ่ เป็นอันดับ 8 ของเอเชีย ท่องเที่ยวขึ้นเที่ยวบนเกาะ4 แสนคน สร้างรายได้ 800 ล้านบาทต่อปี
23 พฤษภาคม 2565 – ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 (ศรชล.ภาค 3) จัดการประชุม เพื่อจัดทำ SOP (Standard Operation Procedure) สำหรับการรับเรือสำราญขนาดใหญ่ ที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยทางทะเลฝั่งอันดามัน
โดย นาวาเอก ธรรมวรรต มาลัยสุขรินทร์ รองผู้อำนวยการ ศรชล.จังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมฯ โดยมี หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม กองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 3/ศรชล.ภาค3 อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต
นาวาเอกพิเชษฐ์ ซองตัน ผู้อำนวยการกองสารนิเทศ สำนักฝ่ายอำนวยการ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 (ผอ.กสน.สน.ศรชล.ภาค 3) ในฐานะโฆษก ศรชล.ภาค 3 กล่าวว่า จากสถานการณ์ทั่วไปเกี่ยวกับการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวทางทะเลฝั่งอันดามัน ด้วย
เรือสำราญขนาดใหญ่
โดย ก่อนสถานการณ์โควิด-19 มีเรือสำราญขนาดใหญ่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย นับเป็นอันดับ 8 ของภูมิภาคเอเชีย ประมาณ 200 เที่ยวต่อปีพานักท่องเที่ยวขึ้นมาท่องเที่ยวบนเกาะภูเก็ตจำนวน 4 แสนคน สร้างรายได้คิดเป็นมูลค่า 800 ล้านบาทต่อปี และช่วงสถานการณ์โควิด-19 ไม่มีการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยของเรือสำราญขนาดใหญ่ ทำให้รายได้เป็นศูนย์
อนาคตอันใกล้นี้ คาดการณ์ว่า จะเริ่มมีเรือสำราญขนาดใหญ่เดินทางมาท่องเที่ยว ทางทะเลฝั่งอันดามัน และจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนเทียบเท่าก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 โดยมีปัจจัยต่างๆ สนับสนุน ดังนี้
นโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในการเปิดพื้นที่การท่องเที่ยวทางทะเลฝั่งอันดามัน (Andaman Blue Zone) รัฐบาลมีแผนประกาศให้โรคโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.65 การกลับมาเปิดให้บริการเต็ม 100 % ของผู้ประกอบการเรือสำราญขนาดใหญ่
สถานการณ์ความตึงเครียดทางด้านยุโรป และ รัสเซีย จะทำให้นักท่องเที่ยวหันมาท่องเที่ยวทางเอเชียแปซิฟิกมากขึ้นรวมทั้งมีการสร้างท่าเรือสำหรับรับเรือสำราญขนาดใหญ่ ซึ่ง จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดกระบี่ อยู่ระหว่าง การสำรวจ ออกแบบ กำหนดตำบลที่ และการทำประชาพิจารณ์
สมาคมเรือสำราญขนาดใหญ่ ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ประกอบการเรือสำราญขนาดใหญ่เพื่อเชิญชวนให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวยังประเทศไทย สมาคมเรือสำราญขนาดใหญ่ยังมี Connection กับชาติที่เป็นกลุ่มลูกค้าเดิมของไทย ได้แก่ ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์
ในเวลาอันใกล้นี้จะมีเรือสำราญขนาดใหญ่ ชื่อ Spectrum Of The Seas จดทะเบียนที่ ประเทศ บาฮามาส (Bahamas) เป็นเรือของบริษัท Royal Caribbean International (บริษัทฯ สัญชาติอเมริกัน) มีกำหนดเดินทางมานำนักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวยังประเทศไทยในเดือน มิถุนายน 2565 นี้
เรือ Spectrum Of The Seas เป็นเรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียอยู่ในขณะนี้ ทดลองการเดินเรือและระบบต่าง ๆ ในปี 2019 เป็นเรือสำราญชั้น Quantum Ultra มีดาดฟ้า 16 ชั้น สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 4,188 คน ห้องพัก 2,100 ห้อง มีความเร็วในการเดินทาง 22 น๊อต (ไมล์ต่อชั่วโมง) ให้บริการอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออก
นาวาเอก พิเชษฐ์ กล่าวต่อไปว่า การประชุมในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ บรูณาการหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรับเรือสำราญขนาดใหญ่ที่จะเดินทางมาเยือน จังหวัดภูเก็ต ร่วมกันจัดทำขั้นตอนมาตรฐาน การบริหารจัดการที่ดีในการรับเรือสำราญขนาดใหญ่ของประเทศไทย(ฝั่งอันดามัน) โดยจัดทำเป็นขั้นตอนมาตรฐานสำหรับการรับเรือสำราญขนาดใหญ่ หรือ (SOP for Cruise Ship)
โดยจะรวบรวมขั้นตอนการปฏิบัติของทุกภาคส่วน มาเขียนเป็นขั้นตอนการปฏิบัติเป็นรูปเล่มในฉบับเดียวกัน ซึ่งเมื่อดำเนินการเรียบเรียงเอกสารเป็นรูปเล่มเรียบร้อยแล้วจะนำเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นผู้ลงนามอนุมัติ และประกาศใช้งาน
การจัดทำ SOP ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายว่า จะกำหนดให้ใครหรือหน่วยงานใดเป็นผู้รับผิดชอบหลัก แต่มีความมุ่งหมายเพื่อให้เกิดการทำงานแบบบูรณาการ มีขั้นตอนการทำงานที่ชัดเจน ง่ายต่อควบคุมและการบริหารจัดการ ไม่เกิดการซ้ำซ้อน
โดยให้ทุกหน่วยงานทุกภาคส่วน ถือปฏิบัติตาม SOP ซึ่งจะปฏิบัติไปในทิศทางและแนวทางเดียวกัน เพื่อให้รู้ว่าหน่วยงานไหนต้องปฏิบัติก่อนและปฏิบัติอย่างไร และหน่วยงานไหนปฏิบัติต่อจากนั้นและปฏิบัติต่อเนื่องกันไป จนจบกระบวนการ
ทั้งนี้ ศรชล.ภาค 3 ขอประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนชาวฝั่งทะเลอันดามันให้ทราบว่า ศรชล.ภาค 3 มีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติงาน เพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ซึ่งเป็นรายได้หลักของประชาชนฝั่งทะเลอันดามัน อย่างเต็มกำลังความสามารถ
หากท่านพบเห็นสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นในทะเล ไม่ว่าจะเป็นการกระทำความผิดทรัพยากรธรรมชาติถูกทำลาย หรือต้องการความช่วยเหลือทางทะเล ขอให้แจ้งมายัง ศรชล.ภาค 3 สายด่วน Hot Line 1465 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เราพร้อมที่จะดำเนินการให้ท่านโดยทันที ตามนโยบายของ พลเรือโท สมพงษ์ นาคทอง ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3/ผู้อำนวยการศรชล.ภาค 3 ที่ว่า “เมื่อได้รับแจ้งเหตุ ให้ ศรชล.ภาค 3 ปฏิบัติโดยทันที”