สภาฯ รวมพลัง แก้กฎหมายตามวุฒิสภา ทั้ง 5 ฉบับ “ภท.” แห้ว นโยบายดอกเบี้ย กยศ. 0%. ต้องคล้อยตามสว. ให้เก็บดอกเบี้ย 1% และเบี้ยปรับไม่เกิน 0.5%
เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 28 ธ.ค. 2565 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม มีการพิจารณาร่างกฎหมาย 5 ฉบับ ที่วุฒิสภาส่งมาให้สภาฯ แก้ไขเพิ่มเติม เรียงตามลำดับ ได้แก่ 1.ร่างพ.ร.บ.สถาปนิก (ฉบับที่…) พ.ศ. … 2.ร่างพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่…) พ.ศ. …
3.ร่างพ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่…) พ.ศ. …. 4.ร่างพ.ร.บ.กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่…) พ.ศ. …. และ 5.ร่างพ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ที่เสนอโดยพรรคภูมิใจไทย (ภท.)
เมื่อเข้าสู่การพิจารณา ร่างพ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ที่วุฒิสภามีการแก้ไขจากที่สภาฯ มีมติไม่เก็บดอกเบี้ย และไม่เก็บค่าปรับ ซึ่งส.ว.แก้เป็นเก็บดอกเบี้ย 1% และเบี้ยปรับไม่เกิน 0.5% โดยสมาชิกส่วนใหญ่ ทั้งจากฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล ในฐานะผู้เสนอกฎหมาย เห็นว่ากองทุน กยศ. ควรเป็นหน่วยงานที่ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาให้กับผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์
โดยเฉพาะในช่วงหลังวิกฤตโควิด-19 ที่ประชาชนส่วนใหญ่ต้องประสบกับปัญหาทางการเงินและเศรษฐกิจ เพื่อให้นักเรียนนักศึกษาได้พัฒนาตัวเองและยกระดับตัวเองให้มีหน้าที่การงานที่ก้าวหน้า มีเพียงส.ส.จากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่แสดงความเห็นติงว่านโยบายไม่คิดดอกเบี้ย และเบี้ยปรับ เป็นการมุ่งเน้นหาเสียงเกินไป จนไม่คิดถึงสภาพความเป็นจริงของสังคมไทยเกี่ยวกับวินัยการกู้เงินของนักเรียนนักศึกษา
นอกจากนี้ ส.ส.ส่วนใหญ่ ยังตำหนิการทำหน้าที่ของวุฒิสภาว่า การที่วุฒิสภาแก้ไขให้คิดดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ เป็นแนวคิดของผู้ที่ไม่รับรู้ถึงสภาพปัญหาด้านการศึกษา และความยากจน เพราะไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนเหมือนกับส.ส.
โดยนายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า “วันนี้จะได้รู้ว่าใครบ้างที่คล้อยตามวุฒิสมาชิก ผู้ทรงเกียร์มากที่สุด ไม่รู้เกียร์ 1 เกียร์ 2 หรือเกียร์ 3 แต่ผมไม่ศรัทธา และผมไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขของวุฒิสภา และอยากให้นักศึกษาและผู้ปกครองทั่วประเทศ ช่วยติดตามผู้แทนฯ จังหวัดของท่านว่าโหวตว่าอย่างไร
นอกจากนี้ อยากให้ช่วยกันยกมือว่าไม่เห็นด้วย และตั้งกมธ.ร่วม ทำงานแค่ 7 วันก็พิจารณาเรียบร้อย แต่ถ้าไม่จริงใจ เล่นเล่ห์เพทุบาย ก็ถ่วงไป ถือเป็นความไม่จริงใจของรัฐบาล ถ้าเห็นด้วยกับวุฒิสภา จะได้รู้ว่าไม่จริงใจกับประชาชน ชนชั้นใดเมื่อมีโอกาสออกกฎหมาย และออกกฎหมายเพื่อชนชั้นนั้น วันนี้เราจะได้รู้ว่าผู้แทนราษฎรเป็นคนชั้นไหน”
จากนั้นเวลา 14.55 น. นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ได้กดออดให้สมาชิกเข้าห้องประชุมเพื่อลงมติในร่าง พ.ร.บ.กยศ. โดยที่ประชุมมีมติเห็นด้วยกับการแก้ไขของวุฒิสภา ด้วยคะแนน 226 ต่อ 11 คะแนน และงดออกเสียง 60 คะแนน เป็นอันว่าที่ประชุมมีมติเห็นชอบกับการแก้ไขเพิ่มเติมของวุฒิสภา คือให้เก็บดอกเบี้ย 1% และเบี้ยปรับไม่เกิน 0.5% จากนั้น นายศุภชัย แจ้งต่อที่ประชุมว่า หมดระเบียบวาระการประชุมแล้ว จึงขอปิดการประชุมในเวลา 15.03 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มติของสภาฯ เห็นชอบตามที่วุฒิสภาแก้ไข ทั้ง 5 ฉบับ แม้ว่าก่อนหน้านี้ ในร่างพ.ร.บ.กบข. มีผู้อภิปรายคัดค้านการแก้ไขของวุฒิสภา ที่ตัดบทบัญญัติที่ให้สิทธิสมาชิก กบข. ขอรับเงินกองทุนไม่เกิน 30% ของจำนวนเงินสะสม เงินสมทบ และผลประโยชน์ตอบแทน เพื่อจัดหาที่อยู่อาศัยของตน ทั้งนี้ ส.ส.ล้วนอภิปรายคัดค้าน เพราะตัดสิทธิข้าราชการชั้นผู้น้อยในการได้รับสิทธิด้านที่อยู่อาศัย อย่างไรก็ตาม ยอมที่จะปรับลดจำนวนอัตราขอเงินสะสม กบข. แต่ควรคงหลักการดังกล่าวไว้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนี้สภาฯ จะส่งร่างกฎหมายทั้ง 5 ฉบับไปยังนายกรัฐมนตรี เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป