ภูมิใจไทย ชี้ แบนสุพรรณหงส์ ต้องแก้ให้โปร่งใส-ออกกฎหมายดูแล มองวงการภาพยนตร์ไทย ติดข้อจำกัดกรอบความคิดสร้างสรรค์-เงินทุน แนะต้องเปิดให้วิพากษ์วิจารณ์ได้
วันที่ 31 มี.ค.2566 ที่ลานโพธิ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาตร์ ท่าพระจันทร์ เวทีที่ 3 ของแคมเปญ “มติชน: เลือกตั้ง 2566 บทใหม่ประเทศไทย” ภายใต้หัวข้อ “ฟังเสียง NEW GEN บทใหม่ประเทศไทย” ที่มีตัวแทนจาก 9 พรรคการเมืองร่วมขึ้นเวทีประชันนโยบาย โดยในช่วงที่ 3 เป็นช่วง “NEW GENSOUND”ให้ตอบคำถามสดจากนักศึกษาที่เข้าร่วมกิจกรรม
โดย น.ส.อิสราพร บูรณอรรจน์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ได้คำถาม จากกรณีแฮชแท็ก แบนสุพรรณหงส์ อยากให้วิเคราะห์วงการภาพยนตร์ไทย และจะทำอย่างไรให้ภาพยนตร์ไทยเติบโตทัดเทียมประเทศอื่นๆ ในเอเชียหรือในโลกได้
น.ส.อิสราพร กล่าวว่า ข้อจำกัดของวงการภาพยนตร์และวงการบันเทิงไทย คือ 1.เรื่องความคิดสร้างสรรค์ คนไทยมีกรอบ มีเงื่อนไข และมีสภาพแวดล้อมทางสังคมที่จำกัดมากในเรื่องความคิดสร้างสรรค์ ทำให้สิ่งที่จะสร้างสรรค์ออกมาไปได้ไม่ไกลกว่าที่เคยเป็น 2.เรื่องเงินทุน แม้จะมีกระทรวงหรือหน่วยงานที่ผลักดันเรื่องนี้ แต่ต้องยอมรับว่าเงินทุนไม่พอ วันนี้จะทำอะไรก็ติดกรอบวินัยการเงินการคลัง
น.ส.อิสราพร กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีแบนสุพรรณหงส์นั้น ตนเข้าใจว่าอาจมีความคลุมเครือ และมีเรื่องกฎเกณฑ์ที่ไม่เป็นธรรม ถ้าเกณฑ์ในการคัดเลือกไม่เป็นธรรม ต้องเอาข้อเท็จจริงมากางดู ให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการวิเคราะห์และวิพากษ์วิจารณ์ เหมือนทุกนโยบายที่ทุกพรรคได้นำเสนอ
“มองว่าจุดที่ต้องแก้ในเรื่องนี้ คือความโปร่งใส เปิดให้ทุกคนวิพากษ์วิจารณ์ได้ สำคัญที่สุดหน่วยงานรัฐหรือองค์กรที่มีหน้าที่ดูแล ต้องรับฟังและนำไปปรับใช้เป็นนโยบายและกฎหมายที่แท้จริง” น.ส.อิสราพร กล่าว