ภูมิใจไทย เปิดหน้าสู้เลือกตั้ง หลัง “บิ๊กตู่” สังกัดพรรคการเมืองเต็มตัว พร้อมจัดขุนพลคุมหาเสียง จ่อเปิดตัว “พุทธิพงษ์” นำทัพกทม. 11 ม.ค.นี้
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 9 ม.ค. 2566 ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรค แถลงภายหลังการประชุม ส.ส. และว่าที่ผู้สมัครจากเขตเลือกตั้งต่างๆ ทั่วประเทศ ว่า พรรคจะส่งผู้สมัครแบบแบ่งเขตครบทั้ง 400 เขต วันนี้เมื่อสถานการณ์การเมืองชัดเจนจากการที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เปิดตัวสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองแล้ว ถือว่าเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งอย่างชัดเจนขึ้น
นายศุภชัย กล่าวต่อว่า โดยการเลือกตั้งอาจจะเกิดขึ้นไม่เกิน 3 เดือนข้างหน้านี้ พรรคจึงต้องประชุมเตรียมความพร้อม แม้ว่าจะเตรียมอยู่ตลอดเวลาแล้วก็ตาม แต่ก็ต้องมีความเข้มข้นมากขึ้น นอกจากนี้ ในการประชุมพรรคยังได้เน้นแนวนโยบายการเลือกตั้งในการแก้ปัญหาการดำรงชีวิต ปากท้องประชาชน เพิ่มรายได้ลดรายจ่าย เพิ่มโอกาสในการประกอบธุรกิจมากขึ้น
นายศุภชัย กล่าวว่า สิ่งที่พรรคได้กำหนดเป็นนโยบายเพิ่ม คือ การให้ผู้สมัครลงพื้นที่ปราศรัยย่อยในหมู่บ้านให้ใกล้ชิดประชาชนมากขึ้น หลังซูเปอร์โพลระบุว่าพรรคภูมิใจไทยมีคะแนนนิยมเป็นอันดับสอง ซี่งพรรคได้แต่งตั้งผู้รับผิดชอบดูแลพื้นที่หาเสียงในแต่ละภาค ประกอบด้วย ภาคอีสาน ได้แก่ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรค และนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรค
ภาคกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรค และนายมณเฑียร สงค์ประชา อดีต ส.ส.ชัยนาท ภาคเหนือ นายชาดา ไทยเศรษฐ ส.ส.อุทัยธานี ในฐานะรองหัวหน้าพรรค และนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ ภาคใต้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา
“ส่วนพื้นที่กทม. ในวันที่ 11 ม.ค.นี้ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ จะเข้ามาเปิดตัวที่พรรคภูมิใจไทย พร้อมกับทีมกทม. รวมถึงจะมีการเปิดตัวผู้สมัครส.ส.อีกบางส่วน ยืนยันว่าวันนี้พรรคมีความพร้อมในการเลือกตั้งแล้ว” นายศุภชัย กล่าว
นายศุภชัย เปิดเผยด้วยว่า ในวันนี้ (9 ม.ค.) นายโรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย ได้มาเยือนที่ทำการพรรคภูมิใจไทย และพบปะกับนายอนุทิน มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนประเด็นทางการเมือง และการเลือกตั้งในประเทศไทย โดยทั้ง 2 ท่านเห็นพ้องต้องกันว่า การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นนัยยะสำคัญ สำคัญที่สุดคือการที่พล.อ.ประยุทธ์ เดิมเคยเป็นหัวหน้าคณะรัฐประหาร ตัดสินใจเข้าสู่กระบวนการประชาธิปไตยถือเป็นความงดงามของระบอบประชาธิปไตย