ภูมิใจไทย ป้อง ศักดิ์สยาม ไม่ได้ซุกหุ้น ขู่กลับฝ่ายค้าน ยื่นป.ป.ช. ระวังโดนฟ้อง แจ้งความเท็จ ย้ำสูตรปาร์ตี้ลิสต์ หารเท่าไหร่ก็ได้
เมื่อวันที่ 22 ก.ค.2565 ที่รัฐสภา นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าววถึงฝ่ายค้านอภิปรายการซื้อขายหุ้นของ หจก.บุรีเจริญ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และจะนำเรื่องส่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ว่า นายศักดิ์สยามในขณะนั้นเป็นประชาชนธรรมดา ประกอบธุรกิจ เป็นหุ้นส่วนใน หจก.บุรีเจริญ ซึ่งมีมูลค่าหุ้นเท่ากับ 119 ล้านบาทเศษ และได้จำหน่ายหุ้นให้กับบุคคลภายนอก 119 ล้านบาทเศษ ขายตามมูลค่าหุ้นที่มีอยู่ ในปี 2560-2561 ซึ่งยังไม่ได้เป็นส.ส.และรัฐมนตรี ที่มีการกล่าวหาว่าซุกหุ้นนั้น ไม่เป็นความจริง มีการชี้แจงในสภาไปแล้ว
แต่ต่อมา มีการกล่าวหาเรื่องไม่ยอมชำระภาษีนั้น ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 40 (4) (ช) จะต้องเสียภาษี ต่อเมื่อได้รับเงินเกินกว่ามูลค่าหุ้นที่ได้จำหน่ายไป ซึ่งนายศักดิ์สยาม ได้จำหน่ายหุ้นเท่ากับราคาหุ้นที่ถืออยู่ จึงไม่มีส่วนเกินที่จะต้องไปยื่นภาษี
นายศุภชัย กล่าวว่า การที่ฝ่ายค้านจะไปยื่นเรื่องต่อป.ป.ช. มีสิทธิ์ยื่น แต่ถ้าวันนี้ ความจริงมันปรากฎออกมาแล้ว นายศักดิ์สยาม ได้ขายหุ้นไปโดยชอบ และเงินที่ได้จากการขายหุ้นก็ไม่เกินจากราคาหุ้นที่ถืออยู่ ซึ่งไม่ต้องยื่นเสียภาษีในส่วนที่เกิน ทางฝ่ายค้านที่จะไปยื่นป.ป.ช. ต้องยอมรับข้อเท็จจริงที่มีการชี้แจงไปแล้ว อาจถูกดำเนินคดีจากนายศักดิ์สยาม ในข้อหาแจ้งความเท็จหรือรู้ว่าบุคคลไม่ได้กระทำความผิดอาญาแล้วไปยื่นเพื่อให้สอบสวนบุคคลหนึ่ง มีโทษทางอาญาร้ายแรง นายศักดิ์สยาม ย่อมมีสิทธิ์ ดำเนินคดีท่านได้เหมือนกัน ฉะนั้น โปรดพึงระมัดระวังที่จะดำเนินการใด ที่มีผลกระทบมีสิทธิ์ถูกดำเนินคดี
เมื่อถามว่านายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ เสนอให้กลับมาใช้สูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ หาร 100 นายศุภชัย กล่าวว่า เท่าที่ทราบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรค บอกแล้วว่า 100 ก็ได้ 500 ก็ได้ ขึ้นอยู่กับสภาว่าเดินหน้าไปแล้วจะมีประเด็นอะไรที่มีผลกระทบที่จะเดินต่อไปได้หรือไม่ได้ มันแล้วแต่ที่ประชุมรัฐสภา และเรื่องนี้ในพรรคยังไม่ได้พูดคุยกัน เพราะการอภิปรายไม่ไว้ใจยังไม่จบ