นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์รายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอของนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง เมื่อวันศุกร์ (11 ส.ค.) โดยว่าตนไม่ขอตอบคำถามว่าการตั้งรัฐบาลใหม่จะมีพรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคพลังประชารัฐหรือไม่
รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยอธิบายว่า ขณะนี้ขอพูดถึงเกี่ยวกับหาเสียงในรัฐสภาให้เพียงพอต่อการโหวตนายกรัฐมนตรีให้ถึง 376 เสียงเท่านั้น แต่ถ้าหาก 2 พรรคการเมืองดังกล่าวจะออกเสียงสนับสนุนนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเตนนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ก็ไม่ขัดข้อง เพราะทุกพรรคการเมืองที่มีที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรขณะนี้ผ่านการเลือกตั้งจากประชาชนมาทั้งนั้น
ตอนหนึ่งของรายการนายสรยุทธ์กล่าวกับนายภูมิธรรมว่า มีข่าวว่า สส. พรรคพลังประชารัฐจะออกเสียงสนับสนุนให้นายเศรษฐาทั้ง 41 เสียง นายภูมิธรรมกล่าวว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี และย้ำว่าเป้าหมายคือการโหวตให้ผ่าน เพราะถ้าหากไม่ผ่านก็จะ “เสียของ” และการเมืองรูปแบบรัฐสภานั้นจำเป็นต้องใช้เสียงสนับสนุน ซึ่งพรรคเพื่อไทยมองตามหลักความเป็นจริง
ยอมกลืนเลือด แต่ไม่ใช่การเกี้ยเซียะ
นายภูมิธรรม กล่าวยอมรับว่าตนตระบัดสัตย์จริง แต่ทุกคนก็ต้องยอมกลืนเลือดทั้งนั้นเพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าได้ การรอให้สมาชิกวุฒิสภา (สว.) หมดอำนาจในการเลือกนายกรัฐมนตรีในอีก 9 เดือนข้างหน้านั้นจะทำให้ปัญหาต่างๆ ของประชาชนไม่ได้รับการแก้ไขอย่างทันเหตุการณ์
นอกจากนี้ นายภูมิธรรมเผยต่อไปว่าการ “สลายขั้ว” ครั้งนี้เป็นเพราะการกลับไปตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล ที่มีเสียงรวม 312 เสียงนั้น เป็นไปไม่ได้แล้ว และไม่ใช่การ “เกี้ยเซียะ” (รอมชอม) เพราะพรรคเพื่อไทยยินดีที่จะให้ฝ่ายค้านรวมถึงพรรคก้าวไกลตรวจสอบการทำงานทุกอย่าง ซึ่งการตรวจสอบเป็นงานที่พรรคก้าวไกลถนัดอยู่แล้ว
เชื่อเพื่อไทยไม่สูญพันธุ์เพราะมีความสามารถ
นายภูมิธรรม ตอบนายสรยุทธ์ เกี่ยวกับกระแสข่าวสะพัดว่าขณะนี้มีการต่อรองตำแหน่งต่างๆ จากพรรคการเมืองที่จะมาเข้าร่วมรัฐบาล ว่าไม่เป็นความจริงและไม่มีการเสนอตำแหน่งใดให้ใคร เพราะขณะนี้พรรคเพื่อไทยกำลังทำการเมืองแบบใหม่เช่นกัน การที่สำนักข่าวคาดการณ์ถึงการต่อรองต่างๆ เป็นการติดอยู่ในชุดความคิดทางการเมืองแบบเก่า
รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พูดต่อไปว่า ถ้ายังคิดแบบเก่าทุกอย่างจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง พรรคเพื่อไทยคิดใหม่เสมอมาตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักไทย พร้อมยกตัวอย่างว่าในอดีตก็เคยถูกสบประมาทว่านโยบายทุกอย่างจะทำไม่สำเร็จเพียงเพราะเป็นเรื่องใหม่ เช่น กองทุนหมู่บ้าน
นายภูมิธรรมเชื่อว่าแม้มีเสียงปรามาสว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไปพรรคเพื่อไทยจะ “สูญพันธุ์” นั้นก็กังวล แต่เชื่อว่าความสามารถในการบริหารประเทศ โดยเฉพาะเศรษฐกิจ ที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้ว จะครองใจประชาชนได้แน่นอน
ส่วนนโยบายใหม่ก็จะเดินหน้าเต็มที่ เช่น เงินเดือน 25,000 บาทสำหรับผู้จบปริญญาตรี, ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทภายในปี 2570 และ ดิจิทัลวอลเลต