เมียแจ๊บ นั่งเฉยดูผัวทุบเด็ก 12 ขวบ ช่วยผสมปูนอำพรางศพ กล้องติดวงจรปิดในบ้านมัดตัวเองเป็นหลักฐานมัดตัว
จากกรณี นายยุทธนา หรือ แจ๊บ อายุ 29 ปี ใช้ไม้เบสบอลทำร้าย ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 12 ปี ซึ่งเป็นหลานสาวของภรรยาที่ตัวเองกับภรรยารับมาเลี้ยงดู จนเสียชีวิต ก่อนนำศพยัดใส่ถังน้ำแข็งโบกปูนถมดินทับ ภายในบ้านพักหลังหนึ่ง เขตบางเขน กทม. ซึ่งเหตุเกิดภายในบ้านพัก และมีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดนาทีอย่างชัดเจน
โดยขณะที่นายแจ๊บลงมือก่อเหตุ นางสาวมิ้นต์ ภรรยาได้นั่งอยู่ในที่กิดเหตุ มองดูเหตุการณ์ โดยไม่ได้มีการห้ามปรามการกระทำของสามีแต่อย่างใด
นอกจากนั้น หลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด หลังเด็กหญิง 12 ขวบ เสียชีวิต ปรากฏภาพระบุเวลา 08:30 น. ของวันที่ 2 ก.ค. นายแจ๊บ กำลังขนอุปกรณ์เพื่อใช้ในการอำพรางศพ โดยมีนางสาวมิ้นต์ ซึ่งเป็นภรรยาของนางแจ๊บ นั่งสูบบุหรี่รออยู่ที่บ้าน ต่อมาเห็นนายแจ๊บ ได้ยกถังน้ำแข็งสีน้ำเงิน เข้ามาในบ้าน และเดินตรงเข้าไปในห้องครัว
จากนั้นนางสาวมิ้นต์ มีการพูดคุยอะไรบางอย่างกับสามี ก่อนจะเดินมาช่วยยกถุงสีขาว คาดว่าน่าจะเป็นถุงบรรจุดินปลูกต้นไม้ เดินตามนายแจ๊บเข้าไปในห้องครัว และเห็นภาพนายแจ๊บ กำลังปูผ้าพร้อมกับลากสาวยางฉีดน้ำ เดินวนเวียนอยู่ในห้องครัว ขณะที่นางสาวมิ้นต์ ได้ยกถุงสีขาว เข้าไปหลังบ้านหลายครั้ง เช่นเดียวกับนายแจ๊บ ก็เดินออกมาช่วยยกถุงสีขาวเข้าไปครัว ก่อนที่ทั้ง 2 คน จะเดินออกมาพูดคุย เหมือนปรึกษาอะไรบางอย่าง ท่าทีคล้ายกับปรึกษาถึงวิธีจัดการทำลายศพ
ซึ่งจากภาพจะเห็นว่านางสาวมิ้นต์ ไม่ได้มีท่าทีหวาดกลัว หรือไม่ได้ถูกสามีข่มขู่แต่อย่างใด ก่อนจะนั้งสูบบุหรี่ นำกรรไกรช่วยตัดเชือกถุงสีขาว ลักษณะคล้ายถุงปูนสำเร็จ ที่วางอยู่บนพื้น ก่อนจะยกถุงเดินเข้าไปในห้องครัว จากนั้นนางสาวมิ้นต์กลับมานั่ง บริเวณจุดแพกสินค้าออนไลน์ และนายแจ๊บ เดินออกมาหา นั่งปรึกษาอะไรกันบางอย่างกันอีกรอบ
โดยนายแจ๊บ ได้หยิบน้ำกระท่อมขึ้นมาดื่มไปพรางๆ แล้วนายแจ๊บ ก็เดินกลับเข้าไปในห้องครัวหลังบ้านอีกรอบ และมิ้นต์ก็ได้เดินตามเข้าไปเช่นกัน ก่อนที่นายแจ๊บ จะหยิบกะละมังสีชมพูใบใหญ่ให้กับมิ้นต์ถือ และวางลงกับพื้น คาดว่าน่าจะเป็นอุปกรณ์ ที่มิ้นต์ใช้ผสมปูน ใช้ในการโบกทับที่ศพ ซึ่งทั้ง 2 คนช่วยกันผสมปูน
ทั้งนี้จากหลักฐานกล้องวงจรปิดดังกล่าว มีรายงานว่า ตำรวจเตรียมรวบรวมหลักฐาน เพื่อเตรียมแจ้งข้อหา กับนางสาวมิ้นต์ แฟนของนายแจ๊บ ฐาน ร่วมกันปิดบังซ่อนเร้น และไม่ใช่การช่วยเหลือผู้อื่นที่ตกอยู่ในภัยอันตราย