ภัยเงียบ! หญิงน้ำหนักลด 10 กก.ในครึ่งปี ตรวจสุขภาพช็อก ตาเหลือง เป็นมะเร็งตับระยะที่ 2 ต้องตัดอวัยวะเพื่อป้องกันการลุกลาม

สำนักข่าวอีทีทูเดย์รายงาน บทความทางการแพทย์ที่ประชาชนควรพึงระวัง หากน้ำหนักลดลงผิดปกติ ไม่ควรสุขใจหรือดีใจมากนัก เพราะอาจเกิดความร้ายแรงต่อสุขภาพและร่างกายไม่รู้ตัว

ตามรายงาน ดร.เฉิน หรงเจียน เผยว่า แพทย์พบผู้ป่วยหญิงวัย 60 ปี เดิมหนักกว่า 70 กิโลกรัม แต่จู่ ๆ “ลดไป 10 กิโล” ภายในครึ่งปี เมื่อใกล้จะถึงวันแม่ไต้หวันนี้ลูก ๆ เลยถือโอกาสจัดเต็ม ตรวจสุขภาพแม่เป็นของขวัญ แต่เกิดเหตุไม่คาดคิด เพราะพบเนื้องอก 2.5 ซม. ที่หัวตับอ่อน และผลตรวจชิ้นเนื้อพบว่าเป็นมะเร็งตับอ่อนระยะที่ 2

ดร.เฉิน หรงเจียน เผยว่า ระหว่างการตรวจสุขภาพแพทย์พบ “ตาขาวมีสีเหลืองเล็กน้อย” จึงแนะนำให้ผ้ป่วยตรวจอีกครั้ง แรก ๆ ก็ผู้ป่วยก็แสดงความขัดขืน บอกว่าไม่ แต่หลังจากลูก ๆ เกลี้ยกล่อมว่า “ลองดูดีกว่า” จึงตรวจพบเนื้องอกที่ส่วนหัวของตับอ่อน ทั้งยังน้ำหนักที่ลดลงอย่างรวดเร็ว จากนั้นผู้ป่วยจึงตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดหลังจากปรึกษาหารือกัน

ดร.เฉิน หรงเจียน อธิบายว่า มะเร็งตับอ่อนไม่เหมือนมะเร็งกระเพาะอาหารหรือมะเร็งลำไส้ใหญ่ เนื่องจากก้อนมะเร็งที่โตขึ้น จึงมักจะขยายไปทางด้านหลัง และลุกลามไปยังเส้นเลือด เจาะทะลุลำไส้ หรือกระเพาะ เช่นเดียวกับผู้ป่วยหญิงที่มีการเจริญเติบโตที่ส่วนหัวของตับอ่อนจึงจำเป็นต้องตัดส่วนปลายของกระเพาะอาหาร, ลำไส้เล็กส่วนต้น, หัวตับอ่อน, ท่อน้ำดี และถุงน้ำดีออกพร้อม ๆ กัน

ดร.เฉิน หรงเจียนชี้ว่าหลังการผ่าตัด เนื้องอกของผู้หญิงถูกตรวจพบว่าเป็น “มะเร็งตับอ่อนระยะ 1B” ซึ่งเรียกว่าระยะที่ 2 เธอโชคดีมากทีเดียว! แพทย์พูดอย่างตรงไปตรงมาว่า ผู้ป่วยมะเร็งตับอ่อนส่วนใหญ่อยู่ในขั้นที่ 3 แล้ว โชคดีที่พบและรักษาได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ และเธอสามารถเลือกได้ว่าจะทำหรือไม่ทำรังสีรักษาติดตามผลหรือเคมีบำบัด จนถึงขณะนี้อาการยังทรงตัวมานานกว่า 2 ปีแล้ว

บางกรณีผู้ป่วยอาจไม่มีอาการเลย จนกระทั่งเป็นมากแล้ว จึงจะแสดงอาการ อาทิ ปวดท้อง เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ตัวเหลือง ตาเหลือง อาการปวดท้องมีลักษณะเหมือนถูกมีดแทงบริเวณลิ้นปี่และปวดร้าวไปข้างหลัง

เฉิน หรงเจียนยังย้ำเตือนว่าไม่ควรมองข้ามอาการสำคัญ 4 ประการของมะเร็งตับอ่อน ได้แก่ อาการตัวเหลือง-ตาเหลือง, ท้องเสีย, ปวดท้องส่วนบน และน้ำหนักลด อาจมีอาการเบื่ออาหารร่วมด้วย หากประชาชนมีข้อสงสัยควรตรวจสุขภาพตามกำหนดเวลาทุก 6 เดือนหรือ 1 ปี โดยแนะนำให้ตรวจ “อัลตราซาวด์ช่องท้อง” เป็นทางเลือกแรก เพราะแพทย์ผู้มีประสบการณ์อาจพบรอยโรคที่ตับอ่อน เช่น ขนาด 0.5 ถึง 1 ซม. เนื้องอกทั้งหมดที่กล่าวมามีโอกาสตรวจพบได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ

นพ. เฉียน เจิ้งฮง แพทย์ระบบทางเดินอาหาร อธิบายด้วยว่า งานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่ามะเร็งตับอ่อนจะมีอาการ 2 ถึง 3 ปีก่อนเริ่มมีอาการ รวมทั้งน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อนด้วยค่าปกติ 100 มก./ dL ผู้ป่วยอาจมีอาการ 105, 106 mg/dL สูงขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ อุณหภูมิร่างกายก็จะสูงขึ้นด้วย และเมื่อมะเร็งปรากฏ ไขมันใต้ผิวหนังก็จะเริ่มลดลงด้วย บางคนคิดว่าผอมลงก็มีความสุข ไม่ใช่แค่ลดไขมัน มวลกล้ามเนื้อก็ลดลงด้วย ปวดท้อง และท้องเสียจะแสดงออกมาเรื่อย ๆ เมื่อมีอาการข้างต้น ต้องระวัง

ขอบคุณที่มาจาก Ettoday

ข่าวที่เกี่ยวข้องกับโรคมะเร็งตับ

• คู่รักช็อก เป็นมะเร็งตับ เหตุปรุงอาหารด้วยพริกไทยเป็นประจำ สุดท้ายเฉลยพีก
• อุทาหรณ์! หนุ่มวัย 28 ปวดท้องหนัก พบป่วยเป็นมะเร็งตับ หลังกินนมดิบวันละแก้ว