ภรรยา คริส เบญจกุล ขอบคุณลูกค้า ปาดน้ำตา ขายน้ำส้ม ทุกคนต้องสู้
หลังจากที่มีข่าวออกไปว่า คริส เบญจกุล หรือ คริสโตเฟอร์ เบญจกุล นักแสดงหนุ่มที่ประสบอุบัติเหตุจากการช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ จนตนเองต้องบาดเจ็บสาหัส กลายเป็นคนร่างกายไม่สมบรูณ์เมื่อ 20 ปีที่แล้ว และภรรยา เชอรี่ ฐิติมา หมวกเพ็ชร เจอพิษโควิดหนัก ต้องควักเงินก้อนสุดท้ายลงทุนขายน้ำส้ม
ทำให้หลายคนเข้าไปสั่งจองน้ำส้มเป็นจำนวนมาก ล่าสุด ข่าวสดบันเทิงออนไลน์ ได้มีโอกาสคุยกับ เชอรี่ ฐิติมา ภรรยาของนักแสดงหนุ่ม ถามถึงกระแสข่าวที่ออกไปมีผลอย่างไรกับยอดขาย
โดยเจ้าตัวเผยว่า “พลังโซเชี่ยลเพิ่งเจอกับตัวเองค่ะ เหมือนเพจที่ทำ เป็นเพจที่เริ่มทำใหม่ตอนแรกมีแค่ 22 ไลฟ์ แต่ตอนนี้มันไปเท่าไหร่แล้วไม่ทราบค่ะ”
แสดงว่ายอดขายดีมาก? “ด้วยความที่เกรงใจลูกค้ามากๆ น้ำส้ม ซื้อที่ไหนก็ได้(ปาดน้ำตา) แต่เขามาอุดหนุนเรา ก็ขอบคุณและประทับใจ
เราสองคนเริ่มขายของเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว เราไปรับเสื้อมาขาย 3 ตัวร้อย ตัวเราเองไม่มีใครรู้จัก พอตั้งโต๊ะเสร็จ พี่คริสเขาก็ประกาศขายของเลย คือพี่คริสเขาเป็นคนสนุก แต่ตอนนั้นเราเขินมาก หลังจากนั้นเราเริ่มขายของกันมาเรื่อยๆ
ประเด็นคือพอเราตัดสินใจออกจากงาน เมื่อเป็นครู แต่ดัชนีความสุขมันลดลง แล้วก็มีทำธุรกิจเริ่มจากทำถั่วงอก เงินที่สะสมไว้ตั้งแต่ตอนทำงานมันก็เลยหมดไปกับตรงนั้น ไม่ใช่แค่เราทุกคนก็ประสบในยุคโควิด เป็นเหมือนกัน ยอดขายก็ตกลง 90 เปอร์เซ็นต์ ที่ขายได้ ก็ได้แค่กินไปวันๆ แล้วบ้านเราก็ต้องเช่า
ในความโชคร้ายในชีวิตเราสองคน มีความโชคดีอยู่เสมอ แม้กระทั่งเจ้าของบ้าน ตอนแรกเราก็จะย้ายออก เรามีหน้าร้านนะคะ เรามาเช่าบ้านเพื่อเปิดร้าน แต่พอขายไม่ดีช่วงโควิด เราก็ตัดสินใจปิด เพราะว่านั่งมันก็เบื่อๆ ก็หาของขาย หาส่งเอา
ก็เลยบอกกับแฟนว่าเราไม่ต้องใช้หน้าร้านแล้ว จะย้ายออก เจ้าของบ้านก็กรุณาลดค่าเช่าให้เรา หรือแม้ไปขายของที่ตลาด ร้านเพื่อนๆ เขาเห็นเรายกของหนัก เขาก็มาช่วย ทุกอย่างมันมีความโชคดี มีกัลยาณมิตรที่ดี
เพื่อนบ้านที่เช่า ซ้าย-ขวา ก็เป็นเพื่อนบ้านที่ดีช่วยดูแลกัน แล้วมันก็มีช่วงที่เราตัดสินใจเพราะว่าฝนก็ตก โควิดด้วย ลูกค้าไม่มาเลย ไม่ต้องลูกค้า เราเองก็กลัว เราอยู่บ้าน แต่ไม่มีจะกิน เราก็ต้องออกไป ก็เริ่มหาทำโน่นทำนี่ สุดท้ายก็เหลือแต่หนี้
ตัดสินใจเอาเงินก้อนสุดท้ายไปลงทุน แต่โชคดีที่สามีเขาส่งเสริมเราตลอด วันที่ตัดสินใจทำธุรกิจออนไลน์ ไม่ได้ว่าธุรกิจออนไลน์ไม่ดี มันดี พอเราตัดสินใจทำ เราก็โอนเงินเก็บในฉลากออมสิน โอนไปเลย(หัวเราะ)
ทำตอนแรกมันก็ดีมากค่ะ แต่พอผ่านไปเราเริ่มไม่ไหว เพราะมันเป็นธุรกิจที่ใช้เงินต่อเงิน แล้วเราสายป่านไม่ยาว ตรงนี้เราหมดหน้าตักกันจริงๆ
ด้วยความเคารพ(ยกมือไหว้) เราทำน้ำส้มทั้งวัน โทรศัพท์เข้ามาก็ตอบไม่ทัน เพิ่งได้อ่านข่าวที่เพื่อนส่งมาให้ เงินก้อนสุดท้ายทำน้ำส้ม เฮ้ย..เรารู้สึกเหมือนเราหมดตัว เรากำลังขออะไรจากสังคม ซึ่งไม่นะคะ มันไม่ใช่ ย้ำเลยว่ามันไม่ใช่แค่เรา ทุกคนที่แย่
ก็รู้สึกอธิบายไม่ถูก(เสียงสั่น) แต่มากกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์มีแต่คนที่เข้ามาเติมกำลังใจ บางทีการพาดหัวข่าว มันก็แอบทำร้ายจิตใจเรา(ยิ้มทั้งน้ำตา) มันไม่ใช่แค่เรากำลังสู้ ทุกคนกำลังสู้”
เราไม่อยากให้คนเข้าใจผิด เราแค่คนหนึ่งที่สู้ชีวิต? “ใช่ค่ะ เรากำลังสู้เหมือนที่ทุกคนสู้ เราโชคดีที่ได้คนใกล้ตัวที่ดีอย่างพี่คริส ตอนแรกเรามองว่าเราน่าจะเป็นฝ่ายที่ให้กำลังใจเขานะ แต่จริงๆ เขาเป็นฝ่ายที่ให้กำลังใจเรา(ปาดน้ำตา) มันมีสิ่งที่ดีมาเสมอ ด้วยความที่เราเป็นตัวแถมของพี่คริส
พอพี่คริสได้อะไรที่ดีๆ มา ก็จะเผื่อแผ่มาถึงเราด้วย ได้รับความเมตตาเผื่อแผ่มาถึงเราด้วย ต้องกราบขอบพระคุณทุกท่าน อย่างตอนแรกที่เราไปขายน้ำส้ม วันไหนที่พี่คริสไม่มา เราจะขายไม่ดีเลย ซึ่งเราก็สงสารเขา เพราะว่าเขาทำงานประจำ 5 วันแล้ว อีก 2 วันเขาก็มาช่วยเรา แต่เขาไม่เคยบ่นน้อยใจ สักคำไม่มีเลย(ปาดน้ำตา)”