วันที่ 3 กันยายน 2566 ภคมน ลิซ่า หนุนอนันต์ พรรคก้าวไกล เดินหน้าแฉ การฮั้วประมูลของ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ว่า กสทช. เป็นองค์กรที่ทำหน้าที่เก็บค่าต๋ง นำเอาคลื่นความถี่ของประชาชนซึ่งเป็นสมบัติสาธารณะไปประมูลมีรายได้มากกว่าปีละ 40,000-50,000 ล้านบาท แต่ระเบียบกลับเปิดช่องให้รอสท. ชอหักเงินเอาไว้ ใช้เองก่อนแล้วเหลือเท่าไหร่จึงค่อยคืนเข้าสู่คลัง ผลที่เกิดขึ้นคืองบประมาณจำนวนมากถูกใช้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ เอื้อผลประโยชน์ให้กับตนเอง และที่สำคัญที่สุดเกิดความไม่โปร่งใส เล่นพรรคเล่นพวก มีผลประโยชน์ทับซ้อน นี่คือจดหมายจากพนักงานในกสทช.ท่านหนึ่ง ที่ทนเห็นความเลวร้ายในองค์กรดำรงอยู่ไม่ไหว จึงส่งจดหมายฉบับนี้มา ดิฉันเห็นว่าเป็นประโยชน์กับสังคมในการตรวจสอบองค์กรแห่งนี้ จึงขออนุญาต นำจดหมายฉบับนี้ออกมาเผยแพร่ โดยบางส่วนของจดหมาย ระบุว่า
สำหรับเรื่องโปรเจคของบอร์ด หรือผู้บริหารระดับสูง แม้กระทั่งที่ปรึกษาบอร์ดจะมีทุกยุคทุกสมัย บางโปรเจคเสียดายงบประมาณมาก ซื้อมาแล้วไม่เคยใช้เลย (เพราะ จนท. ไม่จำเป็นต้องใช้) เหมือนซื้อมาทิ้ง หวังกินค่าคอมมิชชั่น หรือบางโปรเจคได้ของไม่มีคุณภาพ ซื้อมาไม่นานก็เสีย และไม่มีการแก้ไขซ่อมแซมแม้จะอยู่ระหว่างรับประกัน หรือแจ้งบริษัทไปแล้วก็ซ่อมไม่ได้ เจ้าหน้าที่ก็ไม่อยากยุ่งเพราะรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลัง ปัจจุบัน กสทช. ….. แม้จะเป็นบอร์ดแล้ว ยังมีโปรเจคอย่างต่อเนื่อง แถมเพิ่มขึ้นมากในหลายสำนักเพราะไม่มีใครกล้าขัดใจแล้ว บริษัทหลักที่ใช้ประมูล คือ บริษัท ทาลอนเน็ต จำกัด นับรวมๆ บริษัทในเครือน่าจะได้งานเกิน 1,000 ล้านบาท
งบกระจายไปหลายสำนัก เช่น สำนักกิจการภูมิภาค สำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักบริหารข้อมูลกลาง เป็นต้น กรรมการพิจารณาผลส่วนใหญ่เป็นเด็กเพิ่งทำงานไม่กี่ปี และที่สำคัญไม่มีความรู้ทางเทคนิคในเรื่องที่พิจารณา การประกวดราคาครั้งใด หากผลคะแนนของบริษัท ท. แพ้ ก็จะหาทางให้บริษัทคู่แข่งตกในเรื่องคุณสมบัติ หรืออาจถึงขั้นปรับคะแนนแต่ละหมวดไม่ตรงกับเอกสาร TOR เพื่อให้หายข้อข้องใจ บอร์ดควรเสนอให้มีการแต่งตั้งกรรมการตรวจสอบย้อนหลังทุกโครงการ โดยไล่ดูเอกสารทุกแผ่นอย่างละเอียด
นี่เป็นเพียงข้อความส่วนหนึ่งที่ปรากฏให้เราเห็นว่า ผลประโยชน์มหาศาลภายในองค์กร กสทช. ที่ดูแลคลื่นความถี่และเป็นหน่วยงานหลักในการกำกับดูแลสื่อ นำมาซึ่งการเล่นพรรคเล่นพวก และการเมืองภายในที่รุนแรง โดยมีผลประโยชน์ของประชาชนเป็นเดิมพัน
- วิโรจน์ ก้าวไกล ขยี้ต่อ! แนะทำแบบนี้ ยังดีกว่า สส. บางคนที่โดดประชุม
- อดิศร สวนกลับ โรม-ก้าวไกล ลั่น ไม่ได้โกหก แค่ไม่ขอร่วมสังฆกรรม
- พรรคก้าวไกล เตรียมเช็กบิล อดีตผู้สมัคร สส. ล่วงละเมิดทางเพศ
ต่อมา ภคมน พรรคก้าวไกล ได้มีการแฉเพิ่มเติม ว่า จากจดหมายของพนักงาน กสทช. ท่านหนึ่ง ดิฉันจึงทำการสืบค้นข้อมูลของ “บริษัท ท.” พบว่ามีตัวตนอยู่จริง และได้รับงานจาก กสทช. อย่างต่อเนื่องจากปี 2560-2566 โดย “บริษัท ท.” เป็นบริษัทประกอบกิจการซื้อขาย ติดตั้ง บริการซ่อมบำรุงรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์ บริการออกแบบและพัฒนาอีคอมเมิร์ซโซลูชัน และบริการให้คำปรึกษา มีทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท ส่วนข้อมูลการรับงานภาครัฐ ตั้งแต่ปี 2560-2566 มีการรับงานไปแล้ว 35 โครงการ วงเงินรวม 141.8 ล้านบาท 21 จาก 35 โครงการ เป็นการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง ทั้งนี้ บริษัทดังกล่าว โครงการเกือบทั้งหมดรับจาก กสทช.
น่าสนใจว่าบริษัทที่รับงานขนาดนี้ เมื่อลองค้นหาข้อมูลดู ไม่พบเว็บไซต์ของบริษัท หรือ Company Profile ใดๆ เลย เมื่อเปรียบเทียบรายได้บริษัทกับวงเงินจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ทั้งหมดแทบจะเท่ากันพอดี หรืออาจกล่าวได้ว่าบริษัท ท. มีรายได้หลักมาจากการรับงานโครงการของรัฐ และจากข้อมูลรายได้ ที่สืบค้นต่อเราเห็นได้อย่างชัดเจนว่าหลังเข้ารับงาน กสทช. ในปี 2560 รายได้ของบริษัทเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด จากการอภิปรายสอบถามไปก็ไม่มีคำตอบจากกสทช.ที่เข้ามาชี้แจงทั้งที่ประชาชนควรได้รู้ว่า “งบประมาณของรัฐปีละ 20-30 ล้าน จัดซื้อจัดจ้างโครงการแบบนี้ได้อย่างไร และข้อกล่าวหาว่ามี กสทช. ท่านหนึ่งเกี่ยวข้องนั้น ข้อเท็จจริงแล้วเป็นอย่างไร ซึ่งในการชี้แจงของกสทช.ต่อสภาฯไม่มีการเอ่ยถึงข้อสงสัยที่ดิฉันตั้งขึ้นมาเลย”
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY