วันที่ 1 กันยายน 66 พ.ต.ท.ศิริ พิลาคุณ สว (สอบสวน) สว.(สอบสวน) สภ.เชียงคาน จ.เลย ได้รับแจ้งมีเหตุ นายวิเชียร อายุ 39 ปี (หลาน) ใช้ปืนแก๊ปยาวยิงนายสมเดซณ์ อายุ 55 ปี (อาเขย) จนได้รับบาดเจ็บ กู้ชีพ อบต.เขาแก้ว นำส่ง รพ.เลย แต่ทนเจ็บไม่ไหวเสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาล

ส่วนผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไป จนช่วงบ่ายได้ขี่รถ จยย. ไปที่ สภ.เชียงคาน เพื่อมอบตัว พงส.แจ้งข้อกล่าวหา ” ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”

มาวันนี้เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 2 กันยายน 66 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยัง สภ.เชียงคาน พบ พงส.ได้นำตัวนายวิเชียร ผ่านสุข ผู้ก่อเหตุ นำไปฝากขังที่ศาล จ.เลย ช่วงที่ตำรวจควบคุมตัวไปขึ้นรถควบคุมผู้ต้องขัง นักข่าวพยายามสอบถามถึงมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุ

นายวิเชียร บอกนักข่าวว่าสาเหตุที่เขาต้องลงมือยิงอา เนื่องจากอามีอาการป่วยทางจิตเวช และจะเอามีดไล่ฟันตัวเอง ตัวเองจึงต้องยิงปืนสวนไป 1 นัด เพื่อที่จะป้องกันตัว พอถามว่าแล้วไปทะเลาะอะไรกับอาก่อนลงมือก่อเหตุ นายวิเชียร แน่นิ่งไม่ตอบคำถามอะไรกับนักข่าว แต่ตอนนี้เกิดเหตุขึ้นแล้ว ตัวเองก็อยากจะขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย

จากนั้นผู้สื่อข่าวไปยังบ้านที่เกิดเหตุ พบว่าบรรยากาศเงียบเหงา ประตูบ้านล็อกกุญแจ พบว่าบ้านดังกล่าวผู้ก่อเหตุอยู่กับผู้ตายที่เป็นอาเขยเพียง 2 คน และได้คุยกับนางสมพาน อายุ 55 ปี น้าคนก่อเหตุ และเป็นพี่สาวของผู้เสียชีวิต เล่าให้ฟังบอกว่า

เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 08.20 น. นั่งอยู่ในบ้าน จู่ๆ ได้ยินเสียงปืนแก๊ปดัง “แป๊ก” 1 ครั้ง ตอนแรกคิดว่าเป็นเสียงปืนที่ชาวบ้านในชุมชนยิงเพื่อล่าสัตว์ หลังจากเห็นท่าไม่ดีเธอจึงออกมาชะโงกคอที่หน้าบ้าน มองไปที่บ้านของน้องชาย เห็นนายวิเชียร หลานชาย ถือปืนอยู่และบอกว่า “จะยิงให้ตายเลย มาสับทำลายเสื้อผ้าของเขาทำไม”

ตอนนั้นน้องชายที่ถูกยิงล้มไปนอนกองกับพื้นข้างบ้านแล้ว แต่เธอยังมองไม่เห็นร่างของน้องชาย เพียงแต่นึกในใจว่าคงจะมีการยิงกันแล้ว

นางพาน บอกว่า หลังจากนั้นตัวเองก็ไปคุยกับหลานว่า “ทำไมไปทำกับน้าอย่างนั้น” เพราะตอนแรกยังไม่ทราบว่าน้องชายเสียชีวิต ยอมรับว่าตอนนั้นเธอเองก็กลัวเหมือนกัน เพราะหลานยังถืออาวุธปืนอยู่ในมือ ซึ่งหลานชายมีประวัติพัวพันกับยาเสพติด ถูกตำรวจจับกุมข้อหายาเสพติดไปแล้วหลายครั้ง

โดยหลังเกิดเหตุไปขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่บ้าน ให้เรียกรถพยาบาลมารับน้องชายไปรักษา แต่ไปได้เพียงครึ่งทางน้องชายก็ขาดใจเสียชีวิต

ด้านนายเสถียร อายุ 61 ปี น้าของผู้เสียชีวิตอีกคน เล่าให้ฟังบอกว่า หลังเกิดเหตุนางพาน วิ่งร้องไห้ไปหาตัวเอง บอกว่า “ นายวิเชียรยิงนายสมเดชณ์ตายแล้ว” นายเสถียร บอกว่า ปกตินายวิเชียรจะพกปืนกระบอกนี้ติดตัวเป็นประจำ หลังเกิดเหตุเขาไม่ได้หลบหนีไปไหนนั่งอยู่หน้าบ้านแล้วตะโกนบอกกับญาติๆ ว่า “ไม่ต้องไปแจ้งความนะ เดี๋ยวผมจะไปมอบตัวเอง”

หลังจากนั้นขี่รถจักรยานยนต์ออกไปเลย ตอนเกิดเหตุทั้งสองคนไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน นายสมเดชณ์เป็นคนดี ทำมาหากินเลี้ยงดูหลานชายมาตลอดระยะเวลาหลายปี

ส่วนนายวิเชียร หลานชายติดยาบ้ามาหลายปีแล้ว ตอนเกิดเหตุตัวเองคาดว่า นายสมเดชณ์ น่าจะนั่งอยู่หน้าบ้าน แล้ว นายวิเชียรเปิดประตูบ้านออกมายิงเข้าไปอย่างจังที่หน้าอกตรงหัวใจ จนนายสมเดชณ์เสียชีวิต ตอนที่เจ้าหน้าที่พาไปส่งโรงพยาบาลตัวเองได้ตามไปด้วย เห็นภาพนายสมเดชณ์ ขาดใจไปต่อหน้า ตัวเองจึงรู้สึกสะเทือนใจมาก ตอนนี้ยอมรับว่าโกรธหลานชายคนนี้มากเช่นกัน