ฟังอีกมุมจากลูกค้า ปมไรเดอร์บูลลี่บอกทำโช้คพัง อยากเอาเรื่อง แต่สุดท้ายให้อภัย

Home » ฟังอีกมุมจากลูกค้า ปมไรเดอร์บูลลี่บอกทำโช้คพัง อยากเอาเรื่อง แต่สุดท้ายให้อภัย

ลูกค้ามาเอง หลังโดนไรเดอร์โพสต์บูลลี่ บอกทำโช้คพังไม่คุ้มค่ารถ เผยสาเหตุตัดสินใจให้อภัย ทั้งที่ตอนแรกจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

จากกรณีดราม่าวินมอเตอร์ไซค์รายหนึ่ง ออกมาโพสต์ระบายลงกลุ่ม หลังรับลูกค้าสาวที่มีน้ำหนักตัวมาก โดยอ้างว่าได้ค่าโดยสารมา 37 บาท แต่โช้ครถของตัวเองพัง ต้องเปลี่ยนอีกพันกว่าๆ แต่กลายเป็นว่าเจอทัวร์ลงอย่างหนัก จนต้องออกมาโพสต์ขอโทษลูกค้า ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น 

  • ทัวร์ลงไรเดอร์บูลลี่รูปร่างลูกค้า บอกทำโช้คพัง ล่าสุดขอโทษแล้ว แต่ชาวเน็ตไม่ให้อภัย

ล่าสุด วันนี้ (22 ส.ค.) ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งซึ่งแสดงตัวเป็นลูกค้าที่ถูกไรเดอร์บูลลี่ ได้ออกมาโพสต์ลงในกลุ่มที่ไรเดอร์คนดังกล่าวเคยมาโพสต์ เล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า เพิ่งทราบข่าว คนในรูปที่โดนถ่ายคือตนเอง แม้จะไม่เห็นหน้าแต่ใครหลายคนที่รู้จักก็จำได้ และเสียความรู้สึกเสียใจที่ทำรถพี่เขาพัง อยากจะขอโทษหากมันพังที่ตนจริงๆ

ลูกค้าสาวรายนี้ชี้แจงว่า ตนไม่ได้เรียกรถจากแอปพลิเคชั่นซึ่งเป็นชื่อของกลุ่มนี้ แต่ใช้บริการอีกแอปฯ เรียกรถที่เพิ่งเปิดตัวในไทย และราคาที่เขาโพสต์ก็ไม่ใช่ราคานั้น อันดับแรกอยากขอโทษที่ทำรถเขาพัง ถ้ามันมาพังที่ตนจริงๆ แต่ทว่าพฤติกรรมการขับรถของไรเดอร์ก็ไม่ได้ดี ขับเร็วและไม่หลบอะไรทั้งนั้นแม้แต่ลูกระนาด

ปกติทุกครั้งที่ตนเรียกรถจะบอกไรเดอร์ทุกคนว่า “หนูอ้วน หนูตัวใหญ่ ถ้าไม่โอเคปฏิเสธได้เลยค่ะ” แต่วันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนรีบเพราะกลัวไปทำงานสาย เลยไม่ได้พิมพ์ข้อความใว้ในช่องแชตการเรียกไรเดอร์

ส่วนประเด็นที่มีคอมเมนต์ถามว่า ตัวใหญ่แล้วทำไมไม่เรียกรถยนต์ ส่วนตัวระยะทางจากหอไปถึงที่ทำงาน 700 เมตร เรียกรถยนต์สำหรับตนไม่คุ้ม เพราะไม่ได้รวยที่จะใช้เงินฟุ่มเฟือย และถ้ามีเงินมากพอก็จะซื้อรถเป็นของตัวเองให้ไม่ลำบากใครทั้งนั้น ไม่ได้โลกสวยแต่มันคือความจริง

ตนไม่เคยพูดหยาบกับไรเดอร์แม้แต่ครั้งเดียว เพราะทำงานบริการเหมือนกัน ก่อนขึ้นขอโทษทุกครั้งขอนุญาตขึ้น ตอนลงก็ขอบคุณเสมอ ไม่คิดเหมือนกันตัวเองที่มาโพสต์อยากให้ไรเดอร์รู้ว่า ตนจะมาขอโทษแต่เรื่องอย่างอื่นขอดำเนินตามขั้นตอนการฟ้อง

ต่อมาทางลูกค้าคนดังกล่าวก็ได้มาอัปเดตเรื่องราวในเพจกลุ่มอีกครั้งว่า ตนตัดสินใจไม่เอาความอะไรใดๆ ทั้งสิ้นกับไรเดอร์ หลังเจ้าตัวทักแชตมาขอโทษและมาหาถึงที่ทำงาน ซึ่งที่ทำให้ตัดสินใจให้อภัยเพราะไรเดอร์อ้างเรื่องลูก

ตนสงสารลูกของเขา ถ้าลูกเขาต้องมาเจออะไรแบบนี้คงจะเป็นภาพจำที่แย่แน่ๆ สงสารลูกแต่ไม่ได้สงสารพ่อเขา พร้อมตักเตือนเขาไปแล้วเรียบร้อย ทางไรเดอร์บอก ขอโทษที่ขาดสติ คิดน้อยเกินไป ยอมรับผิดและจะจำเหตุการณ์นี้ไปจนตาย

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ