ฟังทั้งสองมุม! ดราม่าจับสุนัขมัดขา เรียกเงิน 5 หมื่น หลังบุกกัดเป็ดตาย 200 ตัว

Home » ฟังทั้งสองมุม! ดราม่าจับสุนัขมัดขา เรียกเงิน 5 หมื่น หลังบุกกัดเป็ดตาย 200 ตัว
ฟังทั้งสองมุม! ดราม่าจับสุนัขมัดขา เรียกเงิน 5 หมื่น หลังบุกกัดเป็ดตาย 200 ตัว

ดราม่าจับสุนัขมัดขาผูกไว้กับเสา หลังบุกเข้าไปกัดเป็ดตายเกือบยกเล้ากว่า 200 ตัว เจ้าของเป็นยันไม่ได้ทำร้ายสุนัข ถูกกัดจึงมัดไว้รอเจ้าของมาเจรจา

จากกรณีเพจมูลนิธิวอชด็อกไทยแลนด์ โพสต์กรณีสุนัขสีขาวถูกจับมัดขาล่ามไว้กับเสาเหล็ก พร้อมข้อความระบุว่า “หมากัดไก่ เจ้าของไก่ตีหมา มัดไว้ขู่ฆ่า เรียกเงิน 5 หมื่นบาท” ซึ่งมีคนแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก บางคนมองว่าเป็นการทำเกินกว่าเหตุ แต่อีกหลายคนอยากให้ฟังข้อเท็จจริง เพื่อความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายนั้น 

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านกลางดง ม.10 ต.ห้วยโพธิ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ พบกับ นายธวัชชัย อายุ 58 ปี เจ้าของบ้าน และเป็นเจ้าของสุนัข เล่าให้ฟังว่า สุนัขที่เห็นในคลิปชื่อว่า “จันทร์เจ้า” เป็นสุนัขเพศเมีย พันธุ์ไซบีเรียน เป็นของลูกสาว ซึ่งไปทำงานที่กรุงเทพฯ แต่ตนเองเป็นคนเลี้ยงและเปรียบเหมือนเจ้าของ ทุกวัน ๆ จะไปปิดประตูบ้านไว้ เพราะกลัวว่าสุนัขที่เลี้ยงไว้มีทั้งหมด 3 ตัว จะออกไปข้างนอกไปกัดสัตว์เลี้ยงของเพื่อนบ้าน ซึ่งบ้านของตนก็มีรั้วรอบขอบชิด

นายธวัชชัย กล่าวต่อว่า วันเกิดเหตุช่วงเช้าของวันที่ 8 มีนาคม ที่ผ่านมา สุนัขของตนได้กระโดดข้ามกำแพงออกไป ก่อนที่จะมีคนมาบอกว่า สุนัขจันทร์เจ้าถูกจับมัดขาไว้กับเสา เพราะไปกัดเป็ดเพื่อนบ้านที่อยู่เยื้องกันตายหลายตัว ตนจึงรีบไปดูก็เห็นภาพสุนัขถูกจับมัดขา ลากมามัดไว้กับเสาหน้าบ้าน และยังขู่ว่าจะฆ่าสุนัขทิ้ง พร้อมกับให้เอาเงินมา 50,000 บาท เป็นค่าเสียหาย และแลกกับการปล่อยตัวสุนัข

ซึ่งในตอนนั้นตนไม่มีเงิน และบอกว่าจะหามาจ่ายทีหลัง ขอให้ปล่อยสุนัขก่อน และด้วยความสงสารจึงได้โทรศัพท์ไปบอกลูกสาว ก่อนที่ลูกจะประสานไปยังมูลนิธิวอชด็อกไทยแลนด์ และตำรวจเข้ามาช่วยเจรจาก่อนจะยอมปล่อย และทราบว่าสุนัขของตนกัดเป็ดไป 34 ตัว ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุลูกสาวรีบพาสุนัข ไปหาหมอ เนื่องจากได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอักเสบที่ขา

นายธวัชชัย กล่าวอีกว่า เรื่องดังกล่าวตนยอมรับและเห็นใจเจ้าของเป็ด แต่ตนก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นเหมือนกัน แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์แล้วตนก็พร้อมที่จะชดใช้ค่าเสียหาย แต่ต้องชดใช้ตามความเหมาะสมหรือตามมูลค่าความเสียหายจริง แต่ไม่ใช่จะไปทำกับสุนัขแบบนี้

และเรียกเงินมากถึง 5 หมื่นบาท ตนมองว่ามันแพงเกินไป ซึ่งทราบว่าทางฝั่งนั้นได้แจ้งความและยืนยันเรียกร้องค่าเสียหาย ซึ่งตนก็ยืนยันว่าพร้อมที่จะชดใช้ แต่ต้องชดใช้ตามความเหมาะสม

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าว ได้สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับ นางสถิตย์ อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของเป็ด เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย

นางสถิต ยืนยันว่า วันเกิดเหตุไม่มีใครลากหรือทำร้ายสุนัข เพียงแต่ช่วยกันจับตัวไว้เพราะกำลังไล่กัดเป็ดในเล้าตายไปกว่า 200 ตัว ก่อนจะเอาขึ้นรถจยย.และมัดขาไว้ผูกกับเสาไว้ เพราะสุนัขกัดคนด้วย จากนั้นจึงไปเรียกเจ้าของสุนัขมาพุดคุย

วันเกิดเหตุช่วงเช้ามืดคนงานได้ยินเสียงเป็ดในเล้าที่เลี้ยงไว้ร้องจึงวิ่งไปดูก็พบว่ามีสุนัข 2 ตัวของนายธวัชชัย กำลังไล่กัดเป็ดตายจำนวนมาก จึงช่วยกันจับตัวสีขาวไว้ได้ ก่อนจะเอาขึ้นรถจยย.พร้อมกับแจ้งไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้านให้มาดู แต่สุนัขกลับกัดที่แขนของสามี จึงต้องมัดขาและผูกกับเสาไว้ พร้อมกับไปเรียกเจ้าของสุนัขมาคุย

ซึ่งทันทีที่นายธวัชชัย เจ้าของสุนัขมาถึงก็ไม่ได้สนใจหรือถามเรื่องความเสียหายเลย แต่กลับเอาโทรศัพท์ถ่ายคลิปทันที พร้อมกับแจ้งไปยังมูลนิธิวอชด็อกเลย และยังขู่ด้วยว่าจะเอาให้ติดคุก โดยที่ไม่ถามไถ่ความเสียหายเลยสักคำ ทั้ง ๆ ที่เราเป็นผู้เสียหาย แถมยังจะไปเรียกคนนั้นคนนี้มาคุย ตนจึงบอกไปว่าไม่ต้องเรียกมาตนเรียกค่าเสียหาย 50,000 บาท เพราะเป็ดตาย 200 ตัว

นางสถิตย์ กล่าวต่อว่า ยืนยันว่าวันเกิดเหตุไม่มีใครลาก หรือทำร้ายสุนัข เพียงแต่จับมัดไว้เท่านั้น ซึ่งดูภาพจากกล้องวงจรปิดได้ เพราะหลังจากปล่อยก็ลุกวิ่งตามเจ้าของไป อีกทั้งตนและครอบครัวก็เป็นคนรักสัตว์ ที่บ้านก็เลี้ยงสุนัข ลูกสาวยังเป็นสมาชิกของมูลนิธิวอชด็อก

จึงอยากขอความเป็นธรรมกับมูลนิธิวอชด็อกด้วยก่อนลงข่าวหรือรายละเอียด ก็ควรสอบถามทั้งสองฝ่าย เพื่อความเป็นธรรม ไม่ใช่ลงข้อมูลฝ่ายเดียว จนตนเองและครอบครัวถูกด่าและถูกเข้าใจผิด อีกทั้งหากเจ้าของเลี้ยงดูแลสุนัขของตนเองดี ก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น

เท่าที่ทราบยังมีเพื่อนบ้านอีกหลายคนที่เป็ดและไก่ถูกกัดตาย ซึ่งต้องนึกถึงตรงนี้ด้วย ทั้งหลังจากนี้ตนก็ยืนยันที่จะเรียกค่าเสียหาย 50,000 บาท เพราะเป็ดเราก็เลี้ยงไว้ในเล้า และกว่าจะเลี้ยงโตมาได้เสียค่าใช้จ่ายไปไม่น้อย แต่กลับมาถูกกัดตายมากถึง 200 ตัว

ล่าสุด วันนี้ (12 มี.ค.) จากการการพูดคุยเจรจา โดยมีกำนันตำบลห้วยโพธิ์ และผู้นำหมู่บ้าน เข้ามาร่วมรับฟังด้วย ซึ่งการพูดคุยทั้งฝ่ายต่างพากันโต้เถียงกันไปมา โดยเฉพาะเรื่องจำนวนเป็ดที่ถูกสุนัขกัดตาย

ซึ่งนางสถิตย์ ถิตย์ฤทธิ์ เจ้าของเป็ด ยืนวันว่า เป็ดของตัวเองถูกสุนัขกัดตายจำนวน 200 ตัว ส่วนใหญ่เป็นเป็ดที่กำลังจะออกไข่ให้ผลผลิตออกขาย นอกจากนี้ยังมีพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ไก่ด้วย จึงต้องการเรียกค่าเสียหาย 50,000 บาท ซึ่งหากไม่ยอมชดใช้ตามนี้ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย

ด้าน นายธวัชชัย วรแสน เจ้าของสุนัขก็ยืนยันว่าวันเกิดเหตุเห็นหลักฐานเป็ดตายเพียง 34 ตัว และเห็นสุนัขถูกจับมัดขาไว้และลากมาผูกกับเสา ซึ่งตนก็พร้อมชดใช้ตามความเป็นจริง และวันนี้ยอมจ่ายได้ไม่เกิน 1 หมื่นบาท แต่ก็ตกลงกันไม่ได้ ซึ่งก็ต้องว่ากันไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

ทั้งนี้ แม้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะพยายามไกล่เกลี่ยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง แต่ก็ไม่สามารถตกลงกันได้ทั้งสองฝ่ายจึงปล่อยให้ไปตามขบวนการของกฎหมาย และไปสู้คดีกันในชั้นศาลต่อไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ