ฟอร์จูนเนอร์ ชนด.ญ.13 ขี่จยย. อ้วกเป็นเลือด คู่กรณีขอจ่าย 3 พัน ชี้ประมาทร่วม

Home » ฟอร์จูนเนอร์ ชนด.ญ.13 ขี่จยย. อ้วกเป็นเลือด คู่กรณีขอจ่าย 3 พัน ชี้ประมาทร่วม


ฟอร์จูนเนอร์ ชนด.ญ.13 ขี่จยย. อ้วกเป็นเลือด คู่กรณีขอจ่าย 3 พัน ชี้ประมาทร่วม

ฟอร์จูนเนอร์ ชน ด.ญ.13 ขี่จยย. อ้วกเป็นเลือด ขอจ่าย 3 พัน ชี้ประมาทร่วม หากให้จ่ายค่าซ่อมรถ ค่าทำขวัญ ก็ต้องจ่ายค่าซ่อมให้ตนเช่นกัน

1 ก.พ. 2565 – ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ต.ร่อนทอง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ว่าอยากให้เป็นสื่อกลางเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้ลูกสาว หลังถูกรถชนแล้วเจ้าของรถปฏิเสธการเยียวยา

นางนิภาวรรณ เวโรจน์ อายุ 44 ปี เล่าว่า เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ลูกสาวอายุ 13 ปี ขับรถจักรยานยนต์ไปโรงเรียน แต่ไม่นานได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่า ลูกถูกรถชนบริเวณสี่แยกซอยข้างโรงพยาบาลสตึก (ไม่มีสัญญาณไฟ) และถูกนำส่งโรงพยาบาล ตนจึงรีบไปหาลูก

เมื่อไปถึงพบว่าลูกไม่ได้สติ อาเจียนเป็นเลือด หมอเกรงว่าสมองจะได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ต้องส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ จากนั้น 2 วันหมอให้กลับมาพักฟื้นที่บ้านเพื่อรอดูอาการ มาจนถึงวันนี้ลูกยังปวดหัวไม่หาย จึงไม่กล้าให้ลูกไปโรงเรียน

หลังจากเกิดเหตุ ตนได้ไปเจรจากับ นายพิสิทธิ์ รองพล อายุ 45 ปี เจ้าของรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ที่เป็นคนขับไปชนลูก แต่ไม่สามารถตกลงกันได้

เนื่องจาก นายพิสิทธิ์ ยืนยันว่าจะจ่ายเงินเยียวยาทั้งค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมรถ ค่าทำขวัญ แค่ 3,000 บาท จึงขอร้องให้คนขับรถเห็นใจ เพราะจ่ายค่ารักษาพยาบาลเองไปแล้ว 10,800 บาท ทั้งรถพังเสียหาย และอาการลูกที่ยังอาการไม่ปกติ แต่ นายพิสิทธิ์ ยืนยันจะจ่าย 3,000 บาท โดยอ้างว่าเพียงพอแล้ว

ตนจึงเข้าไปขอความช่วยเหลือจากตำรวจเจ้าของคดี กลับได้รับคำตอบว่า “ให้ไปจ้างทนายเก่ง ๆ แบบชั้น 1 ไม่ต้องเอาทนายกิ๊กก๊อกในพื้นที่มา เดี๋ยวจะแพ้” ตอนนี้ตนกับสามีไม่มีทางออก เพราะไม่มีใครช่วยเหลือได้ จึงขอร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อ เผื่อจะมีผู้รู้ ผู้ใจบุญมาให้คำชี้แนะ

ต่อมาผู้สื่อข่าวติดต่อไปหา นายพิสิทธิ์ คู่กรณี ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านโทรศัพท์ว่า ตนไม่สามารถชดใช้ตามคำเรียกร้องของผู้เสียหายได้ เพราะกฎหมายไม่เอื้อ เด็กอายุ 13 ปี ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ รถจักรยานยนต์ไม่ได้ต่อ พรบ.ภาคบังคับ ขณะที่รถตนมีทั้ง พรบ. ใบขับขี่ มีประกันชั้น 1 ที่พร้อมจะจ่ายให้ แต่ตนไม่ผิด เพราะลักษณะการชน คือการชนกลางสี่แยก ต่างคนต่างผิดคือเป็นการประมาทร่วม

นอกจากนี้ตำรวจยังระบุชัดว่า ต่างคนต่างซ่อมรถ อีกฝ่ายต้องรักษาเอง ส่วนเด็กที่ได้รับบาดเจ็บถือเป็นเรื่องธรรมดา เพราะเด็กไปล้มใส่พื้นปูนเอง ส่วนตนไม่เป็นไร เพราะเหล็กหุ้มหนังตน

นายพิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ถ้าจะให้ตนจ่ายตามคำเรียกร้องของคู่กรณี คือค่ารักษา 10,800 บาท ค่าซ่อมรถอีกประมาณ 5,000 บาท และค่าทำขวัญอีกราว 20,000 บาท ถ้าตกลงกันแบบนี้ เขาต้องมาซ่อมรถให้ตนที่ได้รับความเสียหายเช่นกัน

“จริงแล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กน้อย น่าจะไปหาทำข่าวที่มันสร้างสรรค์กว่านี้ ไม่ได้สอน แต่แนะนำ” เจ้าของรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ กล่าว

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ