ลูกชายหายตัวไปนาน 5 เดือน พ่อแม่ตามหาจนเจอ กลายเป็นคนเร่ร่อน ลูกตอกกลับทำน้ำตานอง อึ้งปาฏิหาริย์อธิษฐานกับ “อุ๋งอิ๋ง เพชรบ้านแพง”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (2 มี.ค.) เวลา 12.30 น. ร.ต.อ.ถิระโยธิน ทรัพย์สินธ์ รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจาก นายธนิต อายุ 41 ปี และ นางสุภาวรรณ อายุ 39 ปี มาตามหา นายโชคชัย หรือ หนึ่ง อายุ 24 ปี ลูกชาย ซึ่งเดินทางมารายงานตัวที่ศาลจังหวัดอุดรธานี ข้อหาเสพยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2566 แต่หายตัวไปไม่กลับบ้าน จึงได้ขี่รถจักรยานยนต์จากบ้านมาตามหาลูก และพบลูกอยู่ที่หน้าโบสถ์วัดมัชฌิมาวาส เขตเทศบาลนครอุดรธานี แต่ลูกจำพ่อแม่ไม่ได้ เหมือนคนเสียสติ จึงมาขอความช่วยเหลือตำรวจช่วยเหลือนำตัวไปรักษา
ร.ต.อ.ถิระโยธิน นำกำลังสายตรวจ 191 ไปที่หน้าโบสถ์วัดมัชฌิมาวาส แต่ไม่พบนายโชคชัย จึงได้ออกตามหา พบนายโชคชัยแต่งกายมอมแมม เดินถือถุงเก็บขวดพลาติกอยู่ถนนอุดรดุษฎี หน้าวงเวียนหอนาฬิกา จึงเข้าไปสอบถามแต่นายโชคชัยบอกว่าจำไม่ได้ ซึ่งนายโชคชัยบอกว่าทั้งสองคนไม่ใช่พ่อแม่ พอพ่อแม่ชวนกลับบ้านก็ไม่ยอมกลับ ด่าว่าพ่อแม่และตำรวจ และพยายามวิ่งลงถนน
ตำรวจ 4 นายตัดสินใจเข้าไปล๊อคตัวขึ้นท้ายกระบะรถปิกอัพตราโล่เพื่อนำตัวไปบำบัดรักษา แต่นายโชคชัยก็พยายามขัดขืนพุ่งลงถนน เมื่อนายธนิตขึ้นไปนั่งบนท้ายกระบะด้วย นายโชคชัยก็ด่าทอและพยายามพุ่งจะเข้าทำร้าย สุดท้ายต้องให้นายธนิต มาขี่รถจักรยานยนต์ตามไปที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี
นายธนิต เล่าว่า ก่อนหายตัว ลูกชายโดนจับข้อหาเสพยาบ้า ศาลอุดรธานให้มารายงานตัววันที่ 20 กันยายน 2566 ตนให้เงินลูกชาย 200 บาทเดินทางมา จากนั้นลูกก็ไม่กลับบ้านอีกเลย เดือนแรกนึกว่าตำรวจจับตัวไว้ แต่พอผ่านเข้าเดือนที่ 2-3 ตนก็คิดว่าผิดปกติ เพราะติดต่อไม่ได้ จึงได้ออกตามหาสถานที่ลูกเคยไปแต่ก็ไม่พบ
ล่าสุด ลงในเพจข่าวต่าง ๆ ซึ่งมีคนพบลูกชายเดินอยู่ห้างห้างสรรพสินค้า แต่พอเรียกชื่อก็ไม่ขานตอบ วันนี้จึงชวนภรรยามาตามหาในเขตเทศบาลนครอุดรธานี โดยตามหาที่สวนสาธารณหนองประจักษ์ แต่ก็ไม่พบ จากนั้นก็เข้าไปในวัดมัชฌิมาวาส และพบลูกชายนั่งอยู่ศาลาหน้าโบสถ์ ตนและภรรยาดีใจจนร้องไห้ แต่ลูกจำพวกตนไม่ได้ ไม่ยอมรับว่าเป็นพ่อแม่ อาจจะเพราะเสพยา
ก่อนหน้านี้ ลูกชายหน้าตาดี เป็นคนขยัน ช่วยงานพ่อแม่ ไม่ก้าวร้าว ช่วงโควิดไปคบกับเพื่อนไม่ดี ชวนไปเสพยาบ้า หลังจากนั้นก็มีพฤติกรรมก้าวร้าว ไล่ตีพ่อแม่
“แต่พอเห็นลูกก็ดีใจ ตนไม่ได้บนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไหน แต่เห็นในเพจหมอลำอุ๋งอิ๋ง เพชรบ้านแพง ว่าอธิษฐานขอกับอุ๋งอิ๋งจะได้ตามนั้น ขณะที่ขับรถมาตนก็ได้พูดขึ้นลอยๆว่า ถ้าอุ๋งอิ๋งวาจาศักดิ์สิทธิ์จริง ก็ขอให้พบลูกชาย ถ้าพบจะยอมรับนับถือ แค่พูดเล่นๆ ซึ่งภรรยาตนก็ได้ยิน ซึ่งตนไม่เคยดูหมอลำสาวน้อยเพชรบ้านแพง ไม่ได้รู้จักอุ๋งอิ๋งเป็นการส่วนตัว เห็นคนอื่นพูดก็เลยลอง และก็พบลูกจริงๆ” นายธนิต กล่าว
ส่วน นางสุภาวรรณ เล่าว่า สามีชอบ “อุ๋งอิ๋ง เพชรบ้านแพง” ขณะขี่รถจากบ้านดุงเข้ามาตัวเมืองอุดรธานี สามีได้พูดว่า “น้องอุ๋งอิ๋งเอ้ย ถ้าปาฏิหาริย์มีจริง ถ้าอิหล่าช่วยพ่อได้จริงๆ อิหล่าก็ให้พ่อตามหาอ้ายหนึ่งเจอ นายโชคชัย สุคำภา ส่วนตนบอกว่าไม่เชื่อว่าอุ๋งอิ๋งจะช่วยได้ ถ้าเจอจริง ๆ ถึงจะเชื่อ
แต่พอขี่ผ่านวัดมัชฌิมาวาส อะไรมาดลใจไม่รู้ ก็เลี้ยวเข้าไปในวัดเพื่อไปหาลูก และก็ไปพบลูกนั่งอยู่ศาลาหน้าโบสถ์ แต่ลูกจำพวกตนไม่ได้ ต่อต้าน จนตนร้องไห้ ชวนลูกกลับบ้าน แต่ลูกก็ไม่ยอมกลับ แถมถามย้อนคืนว่า “มาตามหากูทำไม กูไม่ใช่ลูกมึง มึงเป็นบ้าเหรือ กูว่ากูบ้าแล้ว มึงยังบ้ากว่ากูอีก อย่ามาร้องไห้ใส่กู” ตนจึงบอกว่าแม่คิดถึงจึงมาตามหา ก่อนหน้านี้ลูกต่อต้านพ่อแม่ แต่ก็ยังจำพ่อแม่ได้ แต่ครั้งนี้ร้ายแรงจนจำพ่อแม่ไม่ได้