พ่อแม่แรงงานไทยในอิสราเอล ร่ำไห้ สงสารลูก ลั่นถ้าเป็นไปได้อยากให้ตัวเองถูกจับแทน เผยลูกไปทำงานส่งเงินกลับบ้านให้ทุกเดือน
วันนี้ (8 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เดินทางไปที่บ้านผึ้ง ต.นาไหม อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี พบ นายชุมพร อายุ 50 ปี และ นางบัวศรี อายุ 50 ปี เป็นพ่อแม่ของ นายมณี อายุ 29 ปี แรงงานไทยที่ถูกจับที่ประเทศอิสราเอล กล่าวว่า นายมณี เป็นลูกชายคนโต ได้เดินทางไปทำงานที่เทศบาลคิวบุตเลอิน
ตนทราบข่าวเรื่องลูกชายถูกจับ เพราะมีคนไทยที่ทำงานด้วยกันกับลูกชายส่งข่าวมาบอก ว่ามีคนไทยถูกจับ ซึ่งในนั้นมีลักกี้ หรือ นายมณี ลูกชายของตนอยู่ด้วย ทันทีที่เห็นภาพตนตกใจมาก ได้พยายามติดต่อกับเพื่อนลูกชายตลอด
ในเวลาต่อมา เพื่อนของลูกจึงได้ส่งข้อความมาบอกว่า เขาแอบอยู่ไม่กล้าใช้โทรศัพท์ สาเหตุที่ไม่ถูกจับไปพร้อมกับเพื่อน เพราะเวลาเกิดเหตุกำลังพากันนึ่งข้าวเอาไว้ และเห็นมีการยิงกันมีเสียงดังตลอดเวลา ตอนนั้นพากันดูอยู่ในห้องพัก เพื่อนของลูกชายจึงเดินไปปิดแก๊สที่นึ่งข้าวเหนียวเอาไว้
กำลังจะเดินออกมาก็เห็นพวกทหารมาจับกุมคนไทยที่พักอยู่ด้วยกันไป เพื่อนของลูกคนนี้จึงหลบและแอบอยู่ กระทั่งเสียงพวกทหารออกไปหมดแล้ว จึงมาส่งข่าวว่าไปหาตน บอกว่าคนไทยที่พักอยู่ด้วยถูกจับตัวไป รวมถึงนายมณี ลูกชายของตนด้วย
ตนได้ไปบนบานปู่ประจำหมู่บ้านเอาไว้ ขอให้ลูกปลอดภัย มีชีวิตกลับบ้าน สงสารลูกถ้าเป็นไปได้ ตนอยากให้ตนเองถูกจับแทนลูก อยากเปลี่ยนตัว อยากให้ลูกปลอดภัย ซึ่งตลอดเวลามีเพื่อนบ้านที่ทราบข่าว ได้เดินทางมาสอบถามความเป็นไปตลอดเวลา
นางบัวศรี แม่ของนายมณี กล่าวว่า ตนสงสารลูกมาก ลูกเป็นโสด อยากมีที่ดิน อยากมีบ้าน อยากมีทรัพย์สมบัติเป็นของตนเอง ไปทำงานส่งเงินกลับบ้านให้แม่ทุกเดือน และเดือนเมษายน 67 ถึงจะครบสัญญา 5 ปี จะได้กลับบ้านแล้ว
ทั้งนี้ มีแรงงานจังหวัดเข้ามาสอบถามข้อมูลต่าง ๆ และให้กำลังใจ พร้อมรับปากว่าจะหาทางช่วยเหลือแรงงานไทยให้กลับบ้านโดยสวัสดิภาพทุกคน