พ่อแม่อเมริกันรู้ว่าลูกติดโควิด แต่ยังส่งไปโรงเรียน แพร่เชื้อ-กักตัวเด็กร่วมชั้น75คน

Home » พ่อแม่อเมริกันรู้ว่าลูกติดโควิด แต่ยังส่งไปโรงเรียน แพร่เชื้อ-กักตัวเด็กร่วมชั้น75คน


พ่อแม่อเมริกันรู้ว่าลูกติดโควิด แต่ยังส่งไปโรงเรียน แพร่เชื้อ-กักตัวเด็กร่วมชั้น75คน

พ่อแม่อเมริกันรู้ว่าลูกติดโควิด – วันที่ 7 ธ.ค. ซีเอ็นเอ็น รายงานผลกระทบจากการตัดสินใจของครอบครัวๆ เดียว ที่ส่งลูกไปโรงเรียนประถมศึกษา นีล คัมมินส์ ในเมืองกอร์เต มาเดรา ทางเหนือของนครซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา เป็นเวลา 7 วัน แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่า ลูกตัวเองติดโควิด-19 ส่งผลให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนราว 75 คน อดร่วมกิจกรรมต่างๆ เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้าที่จะถึงนี้ และจำต้องกักตัวที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย. ที่ผ่านมา

 

ดร.เบรตต์ ไกธแมน ผู้อำนวยการเขตการศึกษาลาร์กสเปอร์-คอร์เต มาเดรา เทศมณฑลมาริน บอกกับซีเอ็นเอ็นว่า เจ้าหน้าที่โรงเรียนเพิ่งได้รับทราบว่านักเรียนติดเชื้อ หลังกรมสาธารณสุขเทศมณฑลมารินติดต่อมา เนื่องจากไม่เคยมีการรายงานในฐานข้อมูลของโรงเรียนแต่อย่างใด

นายไกธแมนกล่าวว่า “เราไม่ทราบว่ามีผู้ติดเชื้ออยู่ เมื่อโทรหาครอบครัวดังกล่าว เราพบว่านักเรียนคนนั้นมีผลการตรวจเชื้อเป็นบวก แต่ไม่แจ้งให้โรงเรียนทราบ จากนั้น ครอบครัวส่งนักเรียนคนนั้นและน้อง 1 คนไปโรงเรียนเป็นเวลา 7 วัน

 

ด้านดร.แมตต์ วิลลิส เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเทศมณฑลมาริน กล่าวกับซีเอ็นเอ็นว่า กรมสาธารณสุขเทศมณฑลมารินมีกระบวนการการกับห้องปฏิบัติการทุกแห่งในพื้นที่ เพื่อรับแจ้งผู้ป่วยรายใหม่ จากนั้น จะติดตามผลกับโรงเรียนเพื่อยืนยันว่า นักเรียนกำลังเข้ารับการกักตัว

“ในกรณีนี้ทั้งโรงเรียนและสาธารณสุขได้รับข้อมูลไม่ถูกต้องจากพ่อแม่ของนักเรียนคนดังกล่าว นำไปสู่การรับสัมผัสเชื้อเป็นเวลายาวนาน ไม่เพียงเป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมพื้นฐาน แต่ฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งสามารถดำเนินการปรับหรือดำเนินคดีอาญาเป็นความผิดลหุโทษ และเนื่องจากความร้ายแรงของการฝ่าฝืนครั้งนี้ เราส่งคดีนี้ไปถึงอัยการเขตแล้ว” ดร.วิลลิส

 

สาธารณสุขได้รับแจ้งนักเรียนติดเชื้อเมื่อวันที่ 8 พ.ย. จากหน่วยงานดูแลสุขภาพแห่งหนึ่ง เมื่อสาธารณสุขเริ่มกระบวนการสืบสวนโรค ครอบครัวของนักเรียนคนดังกล่าวไม่ได้แจ้งชื่อโรงเรียนที่เข้าเรียนตั้งแต่แรก แม้จะพยายามขอให้พ่อแม่ของเด็กคนดังกล่าวแจ้งชื่อโรงเรียน แต่ไม่ยอมแจ้งกลับมา และเมื่อกรมสาธารณสุขพบชื่อโรงเรียนประถมศึกษา นีล คัมมินส์ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่โรงเรียนแห่งนั้น

เจ้าหน้าที่โรงเรียนแจ้งให้นักเรียนทุกคนที่รับสัมผัสเชื้อด้วยการส่งข้อความไปถึงพ่อแม่ของเด็กๆ คืนวันที่ 18 พ.ย. โดยขอให้พ่อแม่พาลูกเข้ารับการตรวจหาเชื้อเช้าวันถัดมาคือ 19 พ.ย. ตรวจนักเรียนราว 50 คน และเจ้าหน้าที่โรงเรียน 10 คน ในโรงยิมของโรงเรียน

ผลการตรวจพบเด็กติดเชื้อ 8 คน ในจำนวนนี้ 2 คน เป็นนักเรียนและน้อง 1 คน จากครอบครัวที่ปกปิดการติดเชื้อของลูก ขณะที่เด็กอีก 3 คน ต้องสงสัยแพร่เชื้อที่ได้รับจากโรงเรียน และอีก 3 คน ได้รับเชื้อจากครอบครัว

เด็กเหล่านั้นและเด็กที่รับสัมผัสเชื้อถูกส่งไปกักตัวที ซึ่งกินเวลา 10 วัน เท่ากับว่าเด็กยังสามารถเข้าเรียนในโรงเรียนได้ แต่ไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมนอกหลักสูตร รวมถึงการพบปะสังสรรค์ในครอบครัวหรือการเดินทางด้วย และเกิดขึ้นก่อนสัปดาห์แห่งวันขอบคุณพระเจ้า ต้องพับแผนฉลองเทศกาลดังกล่าวไปโดยปริยาย

 

ดร.ไกธแมนบอกซีเอ็นเอ็นว่า ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งที่เด็กมาโรงเรียนนี้ทุกวันมานานกว่า 1 ปีแล้ว และครอบครัวของเด็กหลายคน 99% ปฏิบัติตามและเข้าใจกฎเกณฑ์ จึงถือโอกาสนี้วิงวอนให้พ่อแม่ปฏิบัติตามแนวทางป้องกันโควิด-19 อย่างตรงไปตรงมา

ดร.ไกธแมน นี่เป็นครั้งแรกที่มีการแพร่กระจายเชื้อที่มาจากชั้นเรียนภายในเขตการศึกษาของตน ซึ่งดำเนินการกับผู้ปกครองของเด็กคนนั้นแล้ว แต่รายละเอียดบทลงโทษยังเป็นความลับ ขณะที่พ่อแม่ของเด็กคนนั้นออกจดหมายขอโทษถึงตน ครูใหญ่ และครูผู้เกี่ยวข้อง และยอมรับว่าพวกตนไม่มีวิจารณญาณ นอกจากนี้ ตั้งข้อสังเกตว่า เด็กทุกคนหายจากโควิด-19 และไม่มีอาการป่วยหนักในกลุ่ม

“นี่คือชุมชนที่ให้ความสำคัญกับแนวทางการป้องกันโควิด-19 อย่างจริงจังและลงมือทำ นี่เป็นครั้งเดียวที่ครอบครัวดังกล่าวตัดสินใจที่แย่มากซึ่งส่งผลกระทบต่อเด็กจำนวนมาก หากไม่ปฏิบัติตามแนวทางอย่างเข้มงวด ผลที่ตามมาอาจเลวร้ายกว่านี้มาก” ดร.ไกธแมนกล่าวและว่า นักเรียนและเจ้าหน้าที่โรงเรียนต้องสวมหน้ากากอนามัยในชั้นเรียน

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ