ไม่ทิ้งอะไรให้พ่อแม่! ส่งลูกชายเรียนจนจบ ก่อนไปเสียชีวิตในต่างแดน เขียนพินัยกรรมทิ้งมรดกให้ “คนแปลกหน้า” เปิดเผยเบื้องหลังถึงรู้เป็นใคร

ตามรายงานพบว่า “หลิว เว่ยตง” ชายหนุ่มจากเมืองซานตง ประเทศจีน ได้รับทุนการศึกษาไปเรียนที่มหาวิทยาลัยในแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ในขณะที่พ่อแม่พยายามทำงานอย่างหนัก ประหยัดอดออม รวมรวมทรัพย์สินทั้งหมด เพื่อช่วยให้เขาได้เรียนจนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก กระทั่งเขาประสบความสำเร็จและมีงานดีในอุตสาหกรรมการแพทย์ที่ให้เงินเดือนสูง

เมื่อนายหลิววางแผนที่จะไปตั้งรกรากที่ประเทศอังกฤษ ในเวลานี้ผู้เป็นพ่อแม่ได้รวบรวมเงินออมทั้งหมดและกู้ยืมเงินจากหลายๆ ที่ เพื่อช่วยลูกชายซื้อบ้านในต่างแดน ขณะเดียวกันก็อดไม่ได้ที่จะคาดหวังว่าความเหน็ดเหนื่อยของพวกเขาจะได้รับผลตอบแทนในอนาคต เมื่อได้ใช้ชีวิตอยู่กับลูกชายช่วงบั้นปลายชีวิต เพราะระหว่าง 12 ปีที่ไปอาศัยอยู่ในต่างประเทศ นายหลิวกลับบ้านเยี่ยมพ่อแม่เพียง 2 ครั้ง 

แต่แล้วในปี 2015 จู่ๆ เขาก็โทรกลับมาแจ้งข่าวว่าจะแต่งงาน สิ่งนี้ทำให้ครอบครัวตกใจอย่างมาก เพราะไม่เคยรู้ว่าลูกชายมีแฟนแล้ว สุดท้ายจึงตัดสินใจนั่งเที่ยวบินที่ยาวนานไปอังกฤษ คิดว่าจะได้พบกับลูกชายอีกครั้งในงานแต่งงานที่มีความสุขและรื่นเริง แต่สิ่งที่เห็นคือชายหนุ่มผอมและป่วยนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาล ข้างเตียงมีทนายความและหญิงสาวแปลกหน้า นั่นคือว่าที่ลูกสะใภ้ที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน

 ปรากฏว่านายหลิวได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งและมีแนวโน้มจะไม่รอดชีวิต ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจปกปิดเรื่องนี้จากพ่อแม่ และจัดงานแต่งงานเรียบง่ายในโรงพยาบาล จากนั้นเพียง 3 สัปดาห์ต่อมาก็เสียชีวิต หลังจากเสร็จสิ้นงานศพของลูกชาย คู่สามีภรรยาสูงอายุก็คิดถึงทรัพย์สินชิ้นสุดท้ายที่เขาทิ้งไว้ นั่นก็คือบ้านในอังกฤษ แต่สะใภ้ที่เพิ่งเคยพบหน้ากลับยืนกรานว่า

หลังจากเสร็จสิ้นงานศพของลูกชาย คู่สามีภรรยาสูงอายุก็คิดถึงทรัพย์สินชิ้นสุดท้ายที่เขาทิ้งไว้ นั่นก็คือบ้านที่มีมูลค่า 3.75 ล้าน NDT (ประมาณ 12,700 ล้านดอง) แต่เมื่อนายและนางหลิวถามโงเตวียนเกี่ยวกับบ้าน เธอยืนกรานว่านี่เป็นบ้านของเธอ “นี่คือบ้านของฉัน ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตได้ทำพินัยกรรมไว้” เดิมทีพ่อแม่ได้ใช้เงินไปแล้วมหาศาล เพื่อสนับสนุนการศึกษาของลูกชายและซื้อบ้าน แต่ตอนนี้เมื่อได้ยินว่าไม่สามารถใช้บ้านได้ ทำให้ทั้งคู่ตกตะลึง

แม้ว่าพ่อแม่จะพยายามหาทางร้องเรียนและฟ้องร้องนานกว่า 4 ปี เพราะเชื่อว่าลูกชายอาจจะบีบบังคับให้เซ็นพินัยกรรมเมื่ออยู่ในสภาพไม่สามารถตัดสินใจได้ แต่ท้ายที่สุดศาลอังกฤษตัดสินว่า พินัยกรรมมีความถูกต้องตามกฎหมาย ลงนามเมื่อเขามีสติสัมปชัญญะครบถ้วน และมีทนายความเป็นพยาน โดยให้สิทธิ์มรดกทั้งหมดแก่ภรรยาของเขาแต่เพียงผู้เดียว

ความจริงเบื้องหลังพินัยกรรม

แท้จริงแล้ว นายหลิวเริ่มคบหากับแฟนสาวคนนี้ตั้งแต่มาถึงอังกฤษในปี 2003 แต่เนื่องจากพ่อแม่คัดค้านเรื่องความรักของเขาเสมอ เนื่องจากกลัวว่ามันจะกระทบต่อการเรียน เขาจึงตัดสินใจปกปิดเรื่องนี้มาโดยตลอด จนกระทั่งเขาพบว่าตัวเองป่วย และระหว่างที่ดิ้นรนอยู่ในโรงพยาบาล ผู้หญิงคนนี้ก็คอยดูแลเขาอยู่เสมอ เขาซาบซึ้งใจมากและตัดสินใจแต่งงานกับเธอก่อนจะจากไป

ตามที่ทนายความเปิดเผย การเขียนพินัยกรรมของนายหลิวนั้น เดิมทีมีการแบ่งทรัพย์สินให้กับพ่อและแม่ของเขาด้วย อย่างไรก็ตาม ในฉบับสุดท้าย เขาได้ขีดฆ่าส่วนนั้นออกไปโดยไม่ทราบสาเหตุ

คดีนี้ดึงดูดความสนใจของสื่ออังกฤษและจีน รวมถึงความเห็นของประชาชนมาเป็นเวลานาน หลายคนพบว่าเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจการตัดสินใจของนายหลิว ที่ไม่ทิ้งเงินไว้ให้พ่อแม่ของตนเองใช้ในบั้นปลายชีวิตเลยแม้แต่น้อย ทั้งที่พวกท่านได้เสียสละและทำงานหนักเพื่อช่วยให้เขาเรียนต่อต่างประเทศตามที่ต้องการ แต่กลับมอบทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้กับภรรยาที่เพิ่งมาดูแลในช่วงสุดท้ายของชีวิตของเขา ในทางกลับกัน ภรรยาของเขาก็ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเย็นชาต่อพ่อแม่ของสามีผู้ล่วงลับมากเกินไปด้วย

• พินัยกรรมทำช็อก แม่เฒ่ายกมรดกให้ “ลูกเขยปรสิต” เงินไม่ใช่น้อยๆ รู้เหตุผลลูกในไส้หน้าชา
• ลูกสาวน้อยใจ ดูแลแม่จนวันตาย ได้แค่สมุดบัญชี ยกบ้านให้ลูกชาย แต่รู้ยอดเงินช็อกตาโต