พ่อแม่ทรุด ลูกชาย 11 ขวบ ปวดขา-เจ็บอก ไม่ยอมให้ใครแตะตัว หมอต้องใช้ “ยาหลอก” รักษา

Home » พ่อแม่ทรุด ลูกชาย 11 ขวบ ปวดขา-เจ็บอก ไม่ยอมให้ใครแตะตัว หมอต้องใช้ “ยาหลอก” รักษา
พ่อแม่ทรุด ลูกชาย 11 ขวบ ปวดขา-เจ็บอก ไม่ยอมให้ใครแตะตัว หมอต้องใช้ “ยาหลอก” รักษา

 “แม่ครับเจ็บ…” เด็กชายวัย 11 ขวบมีอาการปวดขามาเป็นเวลานาน คำพูดของแพทย์ทำให้พ่อแม่ทรุด ทั้งหมดเป็นความผิดของเรา!

“เสี่ยวคัง” เด็กชายวัย 11 ปีในเมืองฉางซา ประเทศจีน บ่นเรื่องอาการปวดขาอยู่เรื่อยๆ ในตอนแรก พ่อแม่ของเขาคิดว่ามันเป็นเพียง “การขาดแคลเซียม” จึงให้ทานอาหารเสริมแคลเซียม โดยไม่คาดคิดอาการไม่เพียงแต่ไม่ดีขึ้น แต่ยังรุนแรงขึ้นอีกด้วย เริ่มมีอาการ เช่น อาการเจ็บหน้าอก และเจ็บแขน

ดร.เหลียง ลี่จวน แพทย์ประจำแผนก Difficult Comprehensive Ward ของโรงพยาบาลเด็กประจำมณฑลหูหนาน ประเทศจีน กล่าวว่า ตอนที่เสี่ยวคังเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เขาดูเจ็บปวดมากอย่างเห็นได้ชัด ไม่สามารถทนทานต่อการสัมผัสน่องของแพทย์ และบางครั้งก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ถือเป็นความเจ็บปวดแบบ paroxysmal หรืออาการปวดเป็นพักๆ ความรุนแรงจะขึ้นๆ ลงๆ

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่แพทย์ทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียด กลับไม่พบความผิดปกติที่ชัดเจนในเด็ก ในที่สุด หลังจากการปรึกษาหารือร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา การวิเคราะห์ที่ครอบคลุมเกี่ยวกับสาเหตุหลักน่าจะเป็น “ความเจ็บปวดทางจิต” ซึ่งก็คือความเจ็บปวดที่เกิดจากปัจจัยทางจิตวิทยา

ทีมแพทย์ตัดสินใจใช้วิธีสองทาง คือตรวจร่างกาย และใช้ยาหลอกไปพร้อมกัน โดย “การบำบัดด้วยยาหลอก” คือจะให้น้ำเกลือและวิตามินซีแก่เขา พอทำเช่นนี้คนไข้ก็คิดว่าเป็นยารักษาอาการปวดจริงๆ และท้ายที่สุดวิธีการนี้ก็ได้ผล

หลังจากพูดคุยกับผู้ปกครองของคนไข้ แพทย์ได้รู้ว่าเนื่องจากต้องการให้ครอบครัวมีฐานะดี พ่อแม่ทำงานนอกบ้านตลอดทั้งปีเมื่อลูกชายขาดความเอาใจใส่และการดูแลจากผู้ปกครอง จึงหวังในทางจิตวิทยาที่จะดึงดูดความสนใจของพ่อแม่ในลักษณะนี้

ตามที่แพทย์ระบุ การเกิดขึ้นของโรคนี้เกี่ยวข้องกับบุคลิกภาพของแต่ละบุคคล ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมในครอบครัว ความคับข้องใจ ผลกระทบทางจิตใจเชิงลบ ความกังวลใจ ฯลฯ ล้วนสามารถนำไปสู่การเริ่มเกิดโรคได้ และในทางคลินิก ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะประสบกับความเจ็บปวดและไม่สบายที่เกิดจากปัจจัยทางจิต พบได้บ่อยในเด็กที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ครอบครัวที่หย่าร้างฯลฯ โดยปกติจะเกิดในเด็กที่ใกล้เข้าสู่วัยรุ่น

ทางด้านชาวเน็ตแสดงความเห็นใจต่อประเด็นนี้ว่า หลานคนมองตรงกันว่าในกระบวนการศึกษาของครอบครัว ความเป็นเพื่อนระหว่างพ่อแม่และลูกนั้นส่งผลกับชีวิตของลูกโดยตรง “การที่พ่อแม่ต้องอยู่กับลูกเป็นสิ่งสำคัญมาก!” , “เด็กที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังป่วยทางจิตไม่มากก็น้อย…” , “ขาดการดูแลจากพ่อแม่ เมื่อโตขึ้นรู้ว่าจะได้รับความสนใจตอนทำผิดหรือเจ็บป่วยมันช่างน่าสงสารจริงๆ”

  • ลูกชาย 2 ขวบ ติดเชื้อ “ซิฟิลิส” พ่อแม่ผลเป็นลบทั้งคู่ แทบทรุด หมอเฉลยติดจากใคร?!
  • ลูกวัย 8 เดือน มีกลิ่นแปลกๆ อาบน้ำไม่หาย ไปหาหมอถึงรู้เป็น “โรค” เพราะลืมล้างส่วนนั้น

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ