พ่อแท้ๆ บังคับลูกสาววัย 16 เสพยาบ้า ลวงเข้าป่าพยายามขืนใจ เด็กวิ่งหนีสุดชีวิตกลับมาบ้านปู่ย่า ระยะทางไกลกว่า 3 กม.

(5 ต.ค.64) เมื่อเวลา 16.00 น. นางปวีณา หงส์สกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้เดินทางมาที่ สภ.เกาะจันทร์ พร้อมกับ นางเอ (นามสมมุติ) พร้อมด้วย นางสาว บี (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี สองแม่ลูก เข้าพบกับทาง พ.ต.อ.ศิระ กิจสถาน ผู้กำกับการ สภ.กาะจันทร์

หลังจากทาง นางสาวบี ได้ถูกพ่อแท้ๆ คือ นายอดิศักดิ์ อายุ 43 ปี ลวงไปป่าละเมาะข้างทาง พื้นที่ หมู่ที่ 5 ตำบลเกาะจันทร์ อำเภอเกาะจันทร์ จังหวัดชลบุรี ทำการบังคับให้กินยาบ้าไป 2 เม็ด แล้วทำการลวนลามข่มขู่ พร้อมกับจะให้เงินจำนวน 1,500 บาท จนนางสาวบีกลัวจึงได้ถอดเสื้อ แต่จังหวะนั้นสบโอกาส หนีออกมาได้ วิ่งมาบ้านปู่กับย่าที่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งเบื้องต้น ทางพนักงานสอบสวน ได้ทำการขออนุมัติจากศาลจังหวัดชลบุรี ออกหมายจับ และจะเข้าไปจับกุม นายอดิศักดิ์ แต่ได้ไหวตัวหนีไปแล้ว

หลังจากนั้น ทางนางสาวบี ได้พานางปวีณา หงส์สกุล ประธานมูลนิธิและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปชี้จุดที่เกิดเหตุ ซึ่งเกิดขึ้นช่วงกลางดึก วันที่ 31 ตุลาคม 2564 ที่ได้ขี่รถจักรยานยนต์มารับที่บ้านปู่กับย่า อ้างว่าจะพาไปเที่ยวทะเล แต่กับพามาก่อเหตุดังกล่าว

ด้านทางนางปวีณา หงส์สกุล ประธานมูลนิธิ เล่าว่า แม่กับพ่อของเด็ก ได้แยกทางกัน ตั้งแต่ลูกสาวยังเล็กอายุ 3 ขวบ และพามาอยู่ที่กรุงเทพมหานคร พอลูกสาวโตก็จะแวะเวียนมาหาปู่กับย่าบ้าง วันเกิดเหตุ ลูกสาวก็ได้ลงมาพบกับปู่ย่า แต่ไม่คิดว่าคนที่เป็นพ่อแท้ๆ จะลวงลูกสาวตัวเองไปข่มขืน หลังจากลูกสาวกลับไปและเล่าให้แม่ฟัง ทางผู้เป็นแม่จึงเดินทางไปขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เพื่อให้ประสานตำรวจจับนายอดิศักดิ์ ดำเนินคดี ซึ่งในคดีนี้เด็กยังไม่โดนข่มขืน แต่ทางผู้เป็นแม่ กลัวว่าผู้เป็นจะทำร้ายลูกสาวอีก ซึ่งจากที่มีการนำเด็กไปตรวจร่างกายที่สถาบันธัญรักษ์ พบสาร Methamphetamine ในร่างกาย

ขณะที่ พ.ต.อ.ศิระ กิจสถาน ผู้กำกับการ สภ.กาะจันทร์ หลังทราบเรื่องก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปทำการล้อมจับตัวผู้ต้องหาที่บ้าน หมู่ที่ 5 ตำบลเกาะจันทร์ อำเภอเกาะจันทร์ จังหวัดชลบุรี แต่ไม่พบตัว หลบหนีไปแล้ว แต่ก็คาดว่าจะสามารถจับได้เร็วๆ นี้

เบื้องต้นได้ตั้งข้อหา กระทำชำเรากับคนอายุกว่า 15 ปี (ผู้สืบสันดาน) ข่มขืนใจกระทำการใดๆ หรือ ไม่กระทำการใดๆ พาผู้อื่นไปกระทำอนาจาร โดยใช้อุบายใช้กำลังทำร้ายผู้อื่นไม่ถึงกับเป็นเหตุให้ถึงกับอันตรายแก่กายและจิตใจ