พ่อเป็นประธานบริษัท โดนครูของลูก "ดุ" กลางโรงเรียน สุดทน สอนกลับจนคนแห่ปรบมือ

Home » พ่อเป็นประธานบริษัท โดนครูของลูก "ดุ" กลางโรงเรียน สุดทน สอนกลับจนคนแห่ปรบมือ
พ่อเป็นประธานบริษัท โดนครูของลูก "ดุ" กลางโรงเรียน สุดทน สอนกลับจนคนแห่ปรบมือ

ครูหน้าชา… ต่อว่าผู้ปกครองกลางแชทกลุ่ม แถมดุซ้ำที่โรงเรียนต่อหน้าลูก เจอสอนกลับแบบตรงๆ อายจนถูกไม่ออก

ในระหว่างที่เด็กกำลังเติบโต อาจมีหลายเหตุการณ์ที่ทำให้ทั้งครูและผู้ปกครอง รู้สึกเป็นห่วง ไม่สบายใจ หรือโกรธ และหลายครั้งก็ต้องพูดออกมาตรงๆ เพื่อให้เด็กได้ไตร่ตรองพฤติกรรมของตนเอง อย่างไรก็ตาม การสอนเด็กๆ นั้นต้องใช้ความละเอียดอ่อน เนื่องจากเป้าหมายสูงสุดคือเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะได้รับการศึกษาอย่างถูกต้อง และการเจริญเติบโตในแนวทางที่ดีที่สุด

ดังเช่นเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้นในเมืองตงกวน ประเทศจีน ผู้ปกครองของนักเรียนชั้นประถมศึกษาคนหนึ่ง รู้สึกไม่พอใจกับพฤติกรรมครูประจำชั้นของลูกเป็นอย่างมาก จึงตัดสินใจแบ่งปันเรื่องราวผ่านสื่อ โดยเล่าว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงที่ลูกเตรียมตัวสอบปลายภาค ซึ่งมีอาการกังวลมากจนนอนไม่หลับ เหตุผลหลักเพราะครูประจำชั้นเข้มงวดมาก ถ้าใครสอบได้คะแนนไม่ดีจะถูกดุ

ผู้เป็นพ่อบอกว่า เนื่องจากงานของเขาและภรรยายุ่งมาก บางครั้งพวกเขาก็ไม่มีเวลาตรวจการบ้านของลูกๆ ครูประจำชั้นจึงมักโทรสายตรงมาเพื่อ “ดุ” หรือบางครั้งก็ส่งข้อความวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงในกลุ่มแชทของผู้ปกครอง ในตอนแรกเขาและภรรยาเลือกที่จะรับฟังอย่างเงียบๆ เสมอ ไม่กล้าทักท้วงอะไรออกไป

  • คุณพ่อยังหนุ่ม แอบถ่ายรูปครูโรงเรียนลูก กระโปรงขาวสั้นจนใจหวิว เมียเห็นเรื่องใหญ่ถึง ผอ.
  • แม่ไม่สบายใจ ลูกชอบกรีดร้อง-ทำท่าแปลกๆ ตอนทำการบ้าน รู้ต้นเหตุยิ่งปวดใจ

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเช้าวันหนึ่งทำให้เขาอารมณ์เสียอย่างมาก เมื่อจู่ๆ ก็ถูกครูคนดังกล่าว “ดุ” ต่อหน้าลูกสาวที่หน้าประตูห้องเรียน เหตุเพราะลืมเอาการบ้านของลูกใส่กระเป๋านักเรียน ดังนั้น หลังจากพาลูกเข้าชั้นเรียนแล้ว เขาก็ตัดสินใจตอบโต้ออกไปเป็นครั้งแรก โดยเดินไปพูดคุยกับครูประจำชั้นอย่างตรงไปตรงมาว่า

“ในฐานะครู คุณมีสิทธิ์ที่จะวิพากษ์วิจารณ์นักเรียนหรือผู้ปกครองได้ แต่โปรดอย่าวิพากษ์วิจารณ์ผมต่อหน้าลูกของผม และโปรดอย่าให้ลูกๆ เห็นความน่าอับอายของผู้ปกครอง” หลังจากพูดจบเขาก็หันหลังเดินจากมา ปล่อยให้ครูประจำชั้นรู้สึกเขินอายและตกตะลึง

ทั้งนี้ เป็นที่ทราบกันดีว่าคุณพ่อคนนี้เป็นเจ้าของบริษัทบริการอาหารที่มีชื่อเสียง และบริหารจัดการพนักงานหลายร้อยคน เจ้าตัวยังเปิดใจด้วยว่า “พ่อคือบุคคลที่ยิ่งใหญ่ในหัวใจของลูกๆ ครูไม่สามารถทำลายภาพลักษณ์ของพ่อในจิตใจของลูกได้ เพราะนั่นจะส่งผลเสียต่อพัฒนาการของเด็ก”

หลังจากเรื่องราวนี้ถูกตีพิมพ์ในสื่อ ผู้ปกครองส่วนใหญ่ต่างแสดงคงามคิดเห็นสนับสนุนความคิดของคุณพ่อในเรื่องนี้ โดยคอมเมนต์หนึ่งที่ได้รับการกดถูกใจมากที่สุดกล่าวไว้ว่า “หากผู้ปกครองทำผิดพลาดไป หรือประสานพูดคุยกับโรงเรียนได้ไม่ดีนัก ครูก็สามารถพูดคุยเป็นการส่วนตัวได้ การดุพ่อแม่ในแชทกลุ่มแสดงให้เห็นว่าครูขาดความฉลาด ไม่ต้องพูดถึงการดุพ่อต่อหน้าเด็กเลย ว่าจะทิ้งความรู้สึกแย่ๆ ไว้กับเด็กมากแค่ไหน?”

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ