จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นคุณพ่อรายหนึ่ง โพสต์ภาพและคลิปเหตุการณ์ ลูกถูกทำร้าย พร้อมเขียนข้อความว่า
“มึงทำลูกสาวของกูถึงขนาดนี้ แล้วมึงคิดเหรอว่า มึงจะได้ลูกชายของกูกลับไปอยู่กับมึง ฝันไปเถอะนะ ทำเป็นแม่ดีเด่นรักลูก ตัวเองยังเอาตัวไม่รอดเลย แล้วยังจะมาเอาลูกชายของกูออกไปอีกเหรอ ไม่มีทาง สิ่งเดียวที่มึงจะเอาไปได้ กุญแจรถกับตัวมึง ที่เหลือกูหาเลี้ยงเองได้”
โดยผู้ที่โพสต์ คือคุณพ่ออายุ 37 ปี พ่อของเด็กหญิงวัย 6 ขวบ ที่ถูกทำร้ายร่างกาย เปิดเผยว่า ภรรยาคนนี้ทำเกินกว่าเหตุ ตบตีลูกสาวซึ่งเป็นลูกติดของตนอย่างรุนแรง โดยตนกับภรรยา ต่างคนต่างมีลูกติด 1 คน ที่ผ่านมาก็เห็นมาตลอดว่า ภรรยาตีลูกแบบรุนแรง ทั้งตบหน้า ตบปาก และใช้อารมณ์รุนแรงตลอด ยอมรับว่า ตนเคยกระทืบทำร้ายภรรยา แต่ที่กระทืบเพราะว่า ต้องการสั่งสอนที่ภรรยาทำร้ายลูก คิดว่าอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ภรรยาเจ็บแค้นที่ถูกทำร้าย จึงไปลงกับลูก
เมื่อวานนี้ตนก็ได้ทะเลาะกันกับภรรยา เพราะตนเอาลูกชายคนเล็กมาเลี้ยงดูเอง เพราะกลัวว่าจะถูกทำร้ายอีก จึงทำให้มีปากเสียงทะเลาะกัน ทำให้ตนนำคลิปมาโพสต์เพื่อให้ทุกคนเห็นพฤติกรรมของภรรยา ที่ผ่านมาตนไม่เคยตีลูก ทั้งลูกของตนและลูกติดของภรรยา
ขณะที่ ภรรยา อายุ 26 ปี บอกว่า เหตุการณ์ในคลิปเกิดขึ้นเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ตนตีลูกเลี้ยงเพราะเด็กพูดไม่เพราะ พูดจาทะลึ่งเกินวัย ตนเตือนไปแล้วว่า ถ้าพูดอีกจะตบปาก และเมื่อเด็กพูดอีก ก็เลยตบปากไปจริงๆ
น้องสาวของสามีที่เห็นเหตุการณ์ถ่ายคลิปไปฟ้องพี่ชายว่าลูกถูกทำร้าย ก็ยอมรับว่าเธอทำรุนแรงกับลูกเลี้ยงไปจริงๆ ปนกับอารมณ์ประชดประชันสามีด้วย แต่เหตุการณ์ในครั้งนั้นได้คุยกัน เคลียร์กันจบไปแล้ว ยอมรับว่านอกจากการตบปากในคลิป ก็เคยลงโทษเด็กด้วยการตีก้น แต่หลังจากเคลียร์กับสามีรอบนั้นไป ก็ไม่เคยตีเด็กอีกเลย คิดว่าที่สามีเอาคลิปที่เคลียร์กันไปแล้ว มาโพสต์อีก เพราะว่า ทะเลาะกันเรื่องที่ตนพยายามขอลูกชายมาเลี้ยงเอง และเมื่อถูกถามว่า ถ้าสามีตีลูกติดของเธอบ้าง จะรู้สึกอย่างไร เจ้าตัวก็บอกว่า คงไม่พอใจเหมือนกันที่มาทำลูกเรา
ขณะที่ชาวบ้านละแวกใกล้เคียง บอกว่า ที่ผ่านมาเห็นแม่เลี้ยงตีเด็กเป็นประจำ ในลักษณะแบบผู้ใหญ่ตีเด็ก แต่ในบางครั้งก็มีตีรุนแรงกว่าปกติ ซึ่งตนก็มองว่ารุนแรงเกินไปที่จะสั่งสอนหรือทำโทษเด็ก
ขณะที่ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด บอกว่า ได้รับการร้องเรียนให้เข้าไปช่วยเหลือในเคสนี้ พบว่ามีการใช้ความรุนแรงกับเด็ก แม้ว่าผู้ปกครองจะมีการเคลียร์กันแล้ว แต่ก็จะต้องมีการดำเนินคดี ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก
ขณะที่ เจ้าหน้าที่ พม. บอกว่า พฤติกรรมดังกล่าว แบ่งออกเป็น 2 ส่วนความผิด คือ การทำร้ายเด็กที่ส่งผลต่อเด็ก และ พ่อแม่ทะเลาะกันแล้วส่งผลกระทบต่อเด็ก ซึ่งความผิดสองค่ายนี้จะเข้าความผิดตาม พ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก และ พ.ร.บ.ผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ.2550 รวมถึง เข้าข่ายทำร้ายร่างกาย ซึ่งหากพ่อเด็กไม่แจ้งความดำเนินคดีทางเจ้าที่พม.จะเป็นคนแจ้งความเอง ส่วนหลังจากนี้สิทธิในการเลี้ยงดูเด็กทางพ่ออาจจะได้สิทธิไปดูแลเด็กหญิงอายุ 6 ขวบและลูกชายคนเล็ก เนื่องจากแม่เลี้ยงอาจจะถูกดำเนินคดี