พ่อรวยหน้าซีด จัดงานแต่งงานหรู 100 โต๊ะให้ลูกชาย เจอชาวบ้านแก้เผ็ด ไม่มีใครมาร่วมงานสักคน รู้สาเหตุทำตัวเองอับอายล้วนๆ
กลายเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจอย่างมากในบนแพลตฟอร์ม TouTiao ของจีน หลังจากมีชาวเน็ตคนหนึ่งออกมาเปิดเผยเรื่องราวครอบครัวของคุณลุง โดยเล่าว่าลุงของตนเองนั้นย้ายออกจากชนบท ไปอยู่ในเมืองเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ด้วยความคาดหวังว่าจะเปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้น ตอนนั้นปู่ย่าตายายของเธอไม่มีเงินทอง เพื่อนบ้านรอบๆ รู้สึกเห็นใจจึงรวบรวมเงินกันเพื่อมอบให้สำหรับค่าเดินทาง และใช้จ่ายเล็กน้อย
“ลุงหลิว” กลายเป็นหนึ่งในคนที่ออกจากหมู่บ้านไปแล้วประสบความสำเร็จ เติบโตมาเป็นนักธุรกิจชื่อดัง ครอบครัวของเขาเรียกได้ว่ารวยที่สุดในบรรดาเครือญาติ ซื้อบ้าน ซื้อรถยนต์ และส่งลูกไปโรงเรียนนานาชติ ทุกครั้งที่มีการเอ่ยถึงตัวอย่างการเอาชนะความยากลำบาก หัวหน้าหมู่บ้านมักยกชื่อของลุงหลิวมาพูดถึงเป็นอันดับแรกเสมอ กลายเป็นความภาคภูมิใจของหมู่บ้านโดยแท้จริง
แต่เนื่องจากธุรกิจที่เติบโตทำให้หน้าที่การงานยุ่งมาก เขาจึงห่างไกลจากผู้คนในหมู่บ้านและแทบไม่ได้ไปเยี่ยมบ้านเกิดของเขาเลย มีครั้งหนึ่งที่ครอบครัวของเขากลับมาที่หมู่บ้านเพื่อพักร้อนช่วงฤดูร้อน และเด็กๆ ที่อยากรู้อยากเห็นก็ออกมาดูรถราคาแพง สุดท้ายไม่เพียงแต่ถูกเขาดุเท่านั้น แต่เขายังสอนลูกๆ ของตนเองว่าอย่าเล่นกับเด็กในหมู่บ้าน เพราะกลัวจะชวนเล่นโดยไม่สนใจเรื่องเรียน
ผู้โพสต์บอกด้วยว่า ไม่รู้ว่าเด็กๆ เหล่านั้นกลับไปพูดอะไรกับพ่อแม่ รู้แค่ว่าตั้งแต่นั้นมาแทบไม่มีใครทักทายลุงหลิวอย่างร่าเริงเหมือนเมื่อก่อน อย่างไรก็ดี เนื่องจากครอบครัวของลุงชินกับบรรยากาศในเมือง จึงพักอยู่ต่างจังหวัดในช่วงตรุษจีนเพียง 1 วันก็จากไปทันที ไม่คิดอวยพรปีใหม่แม้แต่เพื่อนบ้านที่เคยช่วยเหลือเขาด้วยซ้ำ
แม่ว่าพี่น้องจะพยายามเตือนเขาหลายครั้งเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ลุงหลิวก็เพิกเฉย คิดว่าไม่มีใครจำเหตุการณ์ในอดีตได้ และเหรียญไม่กี่เหรียญก็ไม่มีค่ามากนัก ดังนั้น แม้ว่าจะมีวันครบรอบการเสียชีวิต หรืองานแต่งงานในหมู่บ้าน ลุงหลิวก็ไม่เคยมาร่วมงาน โดยอ้างว่าเขาอยู่ไกลหรือไม่คุ้นเคย
งานแต่งงานหรูหรา แต่ไม่มีแขกร่วมงาน
กระทั่งเมื่อเดือนที่แล้ว ลูกชายคนโตของลุงหลิวตัดสินใจแต่งงานกับแฟนสาว ตามประเพณีแม้ว่าครอบครัวจะย้ายไปอยู่ในเมือง แต่งานเลี้ยงของเจ้าบ่าวก็จะจัดขึ้นในหมู่บ้าน ลุงหลิวขอให้ทุกคนในครอบครัวแจกการ์ดให้ทั่วหมู่บ้าน รวมถึงคนที่ไม่คุ้นเคยซึ่งไม่เคยพูดคุยกันมาก่อน แม้ว่าพี่น้องจะแนะนำให้จัดงานเลี้ยงแค่ขนาดกลางๆ เพราะครอบครัวลุงหลิวออกจากบ้านเกิดไปเป็นเวลานาน อีกทั้งชาวบ้านก็ไม่คุ้นเคยกับลูกชายของเขาด้วย แต่เขากลับไม่รับฟังคำแนะนำนั้น
เขาคิดว่าด้วยชื่อเสียงของเขา ลูกชายจะต้องมีงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่เพื่อให้เหมาะสมฐานะ เพื่อที่บ้านฝั่งลูกสะใภ้จะได้รู้สึก “เคารพ” ด้วยเช่นกัน นั่นเป็นเหตุผลที่คุตัดสินใจสั่งโต๊ะจัดเลี้ยง 100 โต๊ะ จ้างผู้จัดงานจากในเมืองไปยังชนบท เพื่อจัดระเบียบและตกแต่งด้วยสิ่งของที่แพงที่สุด มั่นใจว่านี่จะเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในหมู่บ้าน
แต่ผลลัพธ์นั้นไม่คาดคิด ไม่มีใครในหมู่บ้านมางานแต่งของลูกชายเขาเลย มีโต๊ะจัดเลี้ยง 100 โต๊ะ แต่ญาติและเพื่อนสนิทนั่งอยู่เพียงประมาณสิบโต๊ะเท่านั้น เจ้าบ่าวเองก็รู้สึกเขินอายและสับสน ตอนแรกคิดว่าเป็นเพราะชาวบ้านจำวันผิด ในขณะที่ลุงหลิวดูหงุดหงิดและตำหนิเพื่อนบ้านอย่างหนัก
พ่อของผู้โพสต์ซึ่งดูไม่แปลกใจเมื่อได้เห็นพิธีแต่งงานอันน่าเศร้านี้ ได้เดินไปตบไหล่ลุงหลิวแล้วพูดว่า “แกไม่ควรตำหนิชาวบ้านนะ แกควรจะละอายใจกับวันนี้ ปกติชาวบ้านที่นี่เห็นคุณค่าของความกตัญญู เมื่อแกไม่โต้ตอบหรือปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างดี แล้วจะสามารถขอให้พวกเขาตอบแทนได้อย่างไร อย่าคิดว่าเพราะมีทรัพย์สมบัติเพียงเล็กน้อย จึงคิดว่าตัวเองดีกว่าคนอื่น ไม่ว่าแกจะทำอะไร จงจำไว้ว่าแกมาจากไหน”
สุดท้ายพ่อของผู้โพสต์ และสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆ ต้องพึ่งพาความสัมพันธ์ของพวกเขากับคนในหมู่บ้าน เพื่อเรียกแขกให้มาร่วมงานแต่งมากขึ้น จะได้ไม่ตกอยู่ในสภาพทรุดโทรมและเสียหน้ากับครอบครัวของเจ้าสาว และเชื่อว่าบางทีลุงหลิวอาจได้รับ “บทเรียน” เป็นของตัวเองแล้ว ว่าการปฏิบัติต่อผู้คนมีความสำคัญเพียงใด ไม่เพียงเพื่อตัวเองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงญาติ ลูกๆ และหลานๆ ในครอบครัวด้วย ตอนนี้คนในครอบครัวแค่หวังว่าเจ้าบ่าวจะไม่ได้รับบาดแผลทางจิตใจจากเหตุการณ์นี้