พ่อ”น้องเปรม”เหยื่อรับน้องโหด เปิดคำพูดกับแม่วันนั้น สุดท้ายต้องเสียลูกจริงๆ

Home » พ่อ”น้องเปรม”เหยื่อรับน้องโหด เปิดคำพูดกับแม่วันนั้น สุดท้ายต้องเสียลูกจริงๆ


พ่อ”น้องเปรม”เหยื่อรับน้องโหด เปิดคำพูดกับแม่วันนั้น สุดท้ายต้องเสียลูกจริงๆ

พ่อน้องเปรม นศ.ปวส.1 เหยื่อรับน้องโหด มทร.อีสาน เผย หลังลูกชายจบ ม.6 อยากให้พักการเรียนแล้วชวนไปอยู่ภาคใต้ เมื่อมีโอกาสแล้วค่อยกลับมาเรียนใหม่ โดยให้แม่ช่วยพูดอ้อนลูกแต่ไม่สำเร็จ ไม่คิดคำพูดกับแม่วันนั้น จะเหมือนเป็นลางสังหรณ์

วันที่ 16 มี.ค.2565 ที่บ้านเลขที่ 174 บ้านหนองหัวแรด ต.กฤษณา อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นบ้านพักของ นายพัสยศ หรือ น้องเปรม ชลภักดี อายุ 19 ปี นักศึกษา ปวส.1 สาขาช่างกลโรงงาน วิทยาลัยนวัตกรรมอาชีพ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) อีสาน นครราชสีมา ถูกรุ่นพี่รับน้องโหดทำร้ายร่างกายเสียชีวิต ท่ามกลางความเสียใจของครอบครัว อีกทั้งแฟนสาวยังเพิ่งตั้งท้องได้ 2เดือน

โดยบ้านหลังนี้ น้องเปรม เคยพักอาศัยอยู่ช่วงเรียนอยู่ชั้นมัธยม สภาพบ้านค่อนข้างทรุดโทรม นายเอกชัย ชลภักดี อายุ 55 ปี และนางนิตยา อายุ 42 ปี พ่อและแม่น้องเปรม พร้อมเครือญาติรวมทั้งเพื่อนบ้านจับกลุ่มพูดคุยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ลูกชายต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควร

บ้านเปรม

ผู้เป็นพ่อ เปิดเผยว่า ตนและภรรยาประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไปและรับจ้างกรีดยางอยู่ที่จ.นครราชสีมา และ จ.นครศรีธรรมราช แล้วแต่ใครจะมาจ้างให้ทำ ครอบครัวมีลูก 2 คน เปรมเป็นพี่ชายและน้องสาว ศึกษาอยู่ชั้น ป.5 ซึ่งเรียนดีสอบได้ที่ 1 เป็นประจำ ส่วนเปรม การเรียนพอใช้ได้ชอบเล่นกีฬาเก่ง ตอนเรียนได้โควต้านักกีฬาฟุตบอลไปเรียนต่อชั้นมัธยมที่โคราช

พ่อเปรม

หลังลูกจบชั้น ม.6 ตอนแรกตั้งใจให้ลูกชายพักการเรียนเพื่อตั้งหลักทำงานแล้วค่อยเรียนใหม่ปีต่อไป พร้อมชวนให้ลงไปทำงานอยู่ที่ภาคใต้ แต่ลูกชายต้องการเรียนต่อที่นี้ พยายามให้แม่ช่วยเกลี้ยกล่อมแต่เปรมไม่ยอม ไม่รู้อะไรดลใจตนได้พูดกับภรรยา “ถ้าเรียนที่นี่เกิดอะไรขึ้นแม่ต้องรับผิดชอบนะ” จนกระทั่งเกิดเหตุร้ายจริงๆ ส่วนแฟนสาวของลูกชายตั้งครรภ์ 2 เดือน ก็เพิ่งทราบเรื่องนี้ ขณะนี้ยังไม่รู้เช่นกันจะทำอย่างไร

รับน้อง

นายพัสยศ กล่าวต่อว่า การดำเนินคดีกับรุ่นพี่ ตนอยากให้ดำเนินการถึงที่สุดเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ขณะนี้ศพลูกอยู่ที่รพ.ตำรวจ คาดเสร็จวันนี้ ตั้งใจไม่ทำพิธีที่โคราช จะนำศพลงไปจัดพิธีบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่ภาคใต้ ฝากถึงรุ่นพี่ทุกสถาบัน อย่าให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก ถ้าจัดกิจกรรมสังคมต้องยอมรับได้รวมทั้งอาจารย์ต้องคอยดูแล สอดส่องอย่างใกล้ชิดด้วย

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ