สืบเนื่องจาก คดีคนหาย ไปสู่ คดีฆาตกรรม สำหรับ น้องนุ่น น.ส.ชลลดา วัย 27 ปี ที่หายไปหลังจากกลับจากงานปาร์ตี้วันเกิดให้สามี ต่แมาก็ได้มีการรายงานมาว่า ผู้ก่อเหตุ คือ นายศิริชัย รักทอง อายุ 33 ปี สามีของน้องนุ่น ถูกตำรวจเค้นสอบอย่างหนัก จนยอมรับสารภาพว่า เอาก้อนหินทุบหัวภรรยาจนเสียชีวิตและนำศพไปเผาร่างอำพรางศพ ที่ จ.ปราจีนบุรี

ล่าสุด วันที่ 22 ก.พ. 2567 ใน รายการโหนกระแส ทางครอบครัวของผู้เสียชีวิต ได้กล่าวเปิดเผยในรายการ ว่า วันนี้พ่อยังไม่ได้ดูคลิป ดูไปนิดเดียว แค่เห็นตอนเค้าเตะคอลูกเรา ผมก็รับไม่ได้แล้ว ผมเลี้ยงมายังไม่เคยตี แล้วนุ่นเป็นลูกคนแรก หลานคนแรก ปู่ย่าเขารักมาก คนในหมู่บ้านผมแค้นไอ้ทอยทั้งหมู่บ้าน ผมไม่อยากรับรู้อะไรเลย ไม่เอาอะไรเลย ช็อกกันทั้งหมด

นุ่นเป็นคนทำงาน หาเงินมาตั้งแต่เล็กๆ เอาไว้เลี้ยงดูตนเอง น้องชายบอกว่า พี่นุ่นเป็นผู้ปกครองให้ด้วย ตอนที่แม่ไม่ว่างพี่ก็ไปประชุมแทนตลอด แม่เล่าว่า นุ่นไม่เคยบอกว่าทอยเป็นยังไง เราเห็นเขาโพสต์ว่าครอบครัวน่ารัก อบอุ่น มีความสุข เราคนเป็นพ่อเป็นแม่เราก็ดีใจ เราจึงดูอยู่ห่างๆ ถ้าเขามีเวลาเขาก็มาหาเราเอง

เมื่อถามว่า พ่อรู้ไหมว่าลูกเคยโดนทำร้ายหน้าลิฟท์เมื่อปี 63 พ่อของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตอนนั้นที่ถามนุ่น นุ่นบอกว่าอยากเลิกกับทอย ซึ่งก็เลิกกันอยู่พักใหญ่ๆ แต่ไม่รู้ว่ากลับไปคบกันได้ยังไง ย่านุ่นก็ถามเขานะว่า แน่ใจเหรอที่จะกลับไปคบกับทอยอีกครั้ง นุ่นบอกว่า ไม่เป็นไร สบายใจได้ ไม่ต้องห่วง

“แม่คิดว่านุ่นเป็นคนที่วางตัวเป็นกลางเสมอ เป็นคนที่ผูกทั้งพ่อและแม่เอาไว้ด้วยกัน เขาไม่เคยเข้าข้างใครเป็นพิเศษ จนวันนี้วันที่นุ่นไม่อยู่ พ่อแม่น้องที่ห่างหายกันไปได้กลับมาเจอกันพร้อมหน้าพร้อมตา” แม่ผู้เสียชีวิตกล่าว

สุดท้ายนี้ ทาง น้องชายผู้เสียชีวิต อยากบอกพี่ (น้องนุ่น) ว่า ไม่ต้องห่วงผมจะดูแลครอบครัวให้ดีที่สุด ไม่ต้องห่วงคนข้างหลัง และแม่ขอขอบคุณเพื่อนๆน้องๆของนุ่น ที่เข้ามาช่วยเหลือทุกอย่าง เพื่อนที่รักนุ่นจริงๆ นักข่าวทุกคน สื่อทุกช่อง แม่ขอบคุณมากๆ ที่ทำให้ความจริงมันปรากฎ