พ่อค้าเล้งเปิดใจ หลังขายในงานดนตรีดัง ลงทุนกว่า 2 แสน เจ๊งยับ เห็นของจริงอึ้ง ไม่ใช่อย่างที่ทีมงานการันตี แถมโดดดีดจากกลุ่มไลน์
จากกรณี พ่อค้าเล้งแซ่บ ไปขายภายในงานบิ๊กเมาท์เท่น ที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งลงทุนไปกว่า 2 แสน ค่าที่ 5 หมื่น และเป็นเงินที่กู้เขามา สุดท้ายขาดทุนยับ
ล่าสุดวันที่ 15 ธ.ค.65 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ตลาดเซฟวัน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา พบกับ นายศุภกร ธนัตชัยการ อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของโพสต์ และเป็นเจ้าของร้าน “ซุปเปอร์เล้งแซ่บ อร่อยม่อร้อง” โดยกำลังทำการจัดเตรียมร้าน เพื่อที่จะขายให้กับลูกค้าที่มาเดินช้อปปิ้งในตลาดเซฟวันเหมือนปกติทุกวัน
นายศุภกร กล่าวว่า สาเหตุที่ตนโพสต์เรื่องดังกล่าวเนื่องจากอัดอั้น หลังจากขายของในงานบิ๊กเมาท์เท่นเสร็จในคืนสุดท้าย ซึ่งความเป็นมาของเรื่องนี้ ก่อนหน้านั้นได้มีผู้อ้างว่าเป็นทีมจัดงานบิ๊กเมาท์เท่น มาคัดเลือกร้านค้าที่จะไปขายภายในงาน โดยมาสอบถามว่าร้านของตนสนใจที่จะไปขายในงานนี้หรือไม่ ซึ่งตนก็ถามว่าจะให้ไปขายอะไร เขาบอกว่าคัดเลือกจากร้านขายต้มเล้ง ก็จะให้ตนไปเปิดขายต้มเล้ง โดยเขาอ้างว่างานนี้จะมีคนเข้าชมเป็นจำนวนมาก เฉพาะบัตรที่ขายก็หมดไป 9 หมื่นใบในวันแรก และมีบัตรสปอนเซอร์อีก รวมแล้วน่าจะมีคนเข้างานมากกว่า 1 แสนคน
ซึ่งการันตีว่าแต่ละวันให้ตนมียอดเสิร์ฟไม่ต่ำกว่าวันละ 2,500 เสิร์ฟ รวม 2 วัน ก็ 5,000 เซิร์ฟ ตนจึงคำนวณแล้วว่าต้องใช้เล้งกระดูกหมู หนัก 1 ตัน พริกธรรมดา หนัก 70 กก., พริกขี้หนูสวน หนัก 30 กก. และวัตถุดิบต่างๆ อีกรวมมูลค่าประมาณ 1 แสนบาท ซึ่งตนก็ถามว่ามีที่นั่งให้ลูกค้ารับประทานหรือไม่ ทางผู้จัดก็บอกว่ามีซุ้มกองฟางให้นั่งอยู่
ด้วยความที่ผู้จัดงานเป็นบริษัทค่ายเพลงใหญ่ มีชื่อเสียง และมีการการันตีจำนวนลูกค้าให้เช่นนี้ จึงทำให้ตนตัดสินใจโอนเงินค่ามัดจำไปให้ในวันนั้น 50,000 บาท แต่พอวันงานเห็นซุ้มกองฟางเล็กมาก ไม่น่าจะรองรับลูกค้าได้ตามที่เขาการันตีไว้ เมื่อเปิดขายวันแรก ปรากฏว่าขายไม่ได้เลย เพราะลูกค้าไม่มีที่นั่ง ทำให้วันต่อมาตนต้องเปลี่ยนไปทำผัดกระเพราเล้งใส่กล่องขาย ให้ลูกค้าสามารถถือเดินไปรับประทานได้ แต่ก็ขายได้ไม่มากนัก
แต่การบริหารจัดการของผู้จัดงานเละเทะมาก แม้แต่น้ำเปล่า และน้ำแข็งที่ตนต้องเอามาแช่วัตถุดิบ ก็ไม่สามารถนำมาส่งให้ได้ เพราะเขาไม่อนุญาตให้รถยนต์เข้ามาภายในบริเวณงานเลย คนส่งน้ำ ส่งน้ำแข็ง ต้องใช้รถเข็นส่งแทน ซึ่งร้านมีอยู่จำนวนมากกว่า 120 ร้าน และตั้งอยู่ห่างไกลมาก กว่าร้านน้ำแข็งจะส่งให้ครบทุกร้านก็ทำให้ของสดมีกลิ่นแล้ว กว่าจะมีน้ำ เตรียมอุปกรณ์ต้มเล้งได้ ก็ช่วงกลางคืนแล้ว คนก็ไม่นั่งกินเตรียมไปดูดนตรีกันแล้ว
โดยก่อนไปขายในงาน ตนต้องไปกู้เงินบัตรเครดิต นำทองไปจำนำ เพื่อจ่ายค่าเช่าที่ ค่าวัตถุดิบ ค่าคนงาน รวมเบ็ดเสร็จแล้ว ลงทุนไปกว่า 2 แสนบาท แต่พอขายวันสุดท้าย มานับเงินได้เพียง 4 หมื่นกว่าบาทเท่านั้น เป็นอันว่าขาดทุนย่อยยับ และที่สำคัญหลังเสร็จงาน ผู้จัดงานยังดีดพ่อค้า-แม่ค้าที่ไปขายในงานออกจากกลุ่มไลน์หมดทุกคน โดยที่ยังไม่คืนเงินค่ามัดจำ 5,000 บาทเลย จึงเกิดความอัดอั้นตันใจและออกมาโพสต์เล่าเรื่องราวดังกล่าวลงในโซเชียลครั้งนี้