ศาลในเซี่ยงไฮ้ เพิ่งตัดสินให้ “นายหลิว” ซึ่งเป็นเจ้าของแผงขายผลไม้ในตลาด ได้รับมรดกทรัพย์สินของ “นายหม่า” มูลค่า3.3 ล้านหยวน แม้ว่าจะไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับผู้เสียชีวิต และถูกคัดค้านจากญาติก็ตาม
ย้อนกลับไปในปี พ.ศ.2563 สาธารณชนชาวจีนตกตะลึงกับข่าวของ “นายหม่า” ซึ่งขณะนั้นอายุ 88 ปี ตัดสินใจมอบทรัพย์สินทั้งหมดของเขา ให้กับ “นายหลิว” เจ้าของแผงขายผลไม้ เป็นวิธีขอบคุณที่เขาและครอบครัวคอยดูแลในช่วงปีสุดท้ายของชีวิต
นายหม่า กลายเป็นชายชราที่อาศัยอยู่เพียงลำพัง หลังจากลูกชายคนเดียวของเขาที่ป่วยเป็นโรคทางจิตเสียชีวิตอย่างกะทันหัน กระทั่งเมื่อได้คุยกับเจ้าของแผงขายผลไม้ใกล้บ้าน ความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างเพื่อนต่างวัยก็เริ่มขึ้น นายหลิวคือผู้ที่ก้าวเข้ามาช่วยดูแลและแก้ไขปัญหาทุกอย่าง
ครั้งหนึ่ง นายหม่าเคยหมดสติหลังจากล้มลงที่บ้าน นายหลิวก็เป็นคนมาพบและพาเขาไปส่งโรงพยาบาลได้ทันเวลา จึงถือเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเขาไว้ และยังเป็นคนเดียวที่ดูแลเขาหลังจากเหตุการณ์นั้น
ต่อมาไม่นาน เมื่อรู้ว่านายหลิวตกอยู่ในสภาวะที่ยากลำบาก ชายชราจึงเชิญเขา ภรรยา และลูกสามคนมาอาศัยอยู่ที่บ้านด้วยกัน พวกเขาสร้างครอบครัวที่แสนพิเศษ อยู่ร่วมกันอย่างสามัคคีและมีความสุขร่วมกันเหมือนญาติทางสายเลือด
เมื่อนายหม่าเสียชีวิตเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2564 มีการลงนามข้อตกลงระหว่างนายหม่าและหลิวในปี 2563 โดยมีเนื้อหาว่านายหลิวมีหน้าที่ดูแลนายหม่าจนตาย และทรัพย์สินของชายชราทั้งหมดจะถูกโอนย้ายไปที่นายหลิว
อย่างไรก็ดี น้องสามคนของผู้เสียชีวิตได้เข้าครอบครองบ้าน และปฏิเสธที่จะมอบใบรับรองทรัพย์สินให้กับนายหลิว โดยยืนยันว่าพวกเขามีสิทธิ์จะได้รับทรัพย์สินทั้งหมดของพี่ชาย จากนั้นพวกเขาก็ยื่นฟ้องนายหลิวในศาล กล่าวว่านายหม่าป่วยทางจิต เป็นโรคอัลไซเมอร์ และไม่มีความสามารถทางสติปัญญาในการลงนามในเอกสารดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ปฏิเสธข้อโต้แย้งของญาตินายหม่า โดยยืนยันว่าการตัดสินใจมอบทรัพย์สินให้กับนายหลิวตามพินัยกรรมนั้นไม่มีอะไรผิด
ล่าสุด ศาลประชาชนเขตเป่าซาน นครเซี่ยงไฮ้ ได้ออกคำตัดสินว่าข้อตกลงระหว่างนายหม่ากับนายหลิว “มีผลสมบูรณ์” ผู้พิพากษาขอให้ญาติของผู้เสียชีวิตคืนบ้านและทรัพย์สินทั้งหมดของชายชราแก่นายหลิว
ข่าวคำตัดสินนี้ดึงดูดความคิดเห็นมากกว่า 100,000 ความเห็นบนเว็บไซต์โซเชียลเน็ตเวิร์ก คนส่วนใหญ่ชื่นชมคำตัดสินที่ยุติธรรมของศาล
“คำตัดสินนั้นยุติธรรมและสมเหตุสมผลมาก ผู้ทำความดีต้องโชคดี”
“เป็นเรื่องสมเหตุสมผลมากที่เจ้าของแผงขายผลไม้จะได้รับทรัพย์สินนั้น เขาและครอบครัวช่วยให้นายหม่ามีชีวิตที่อบอุ่นและได้รับการดูแลอย่างดีในวาระสุดท้ายของเขา”
“เรียบง่าย เข้าใจง่ายมาก ถ้าเป็นฉัน ฉันจะใจดีกับคนใจดีกับฉันด้วย”