พ่อขายบ้านได้เงิน 4 ล้าน แบ่งลูกชายละครึ่ง อึ้งสะใภ้คนเล็กวีนแตก บอกไม่ยุติธรรม

Home » พ่อขายบ้านได้เงิน 4 ล้าน แบ่งลูกชายละครึ่ง อึ้งสะใภ้คนเล็กวีนแตก บอกไม่ยุติธรรม
พ่อขายบ้านได้เงิน 4 ล้าน แบ่งลูกชายละครึ่ง อึ้งสะใภ้คนเล็กวีนแตก บอกไม่ยุติธรรม

พ่อขายบ้านได้เงิน 4 ล้าน แบ่งลูกชายละครึ่งเพื่อความยุติธรรม แต่กลับกลายเป็นว่าทำให้ครอบครัวแตกแยก

เว็บไซต์ Soha ของเวียดนาม เปิดเผยเรื่องราวของชายชราคนหนึ่ง ที่ขายบ้านได้เงิน 4 ล้านและแบ่งให้ลูกชาย 2 คน คนละครึ่ง เขาคิดว่าเขาได้ตัดสินใจอย่างยุติธรรมที่สุดแล้ว แต่กลับกลายเป็นว่าทำให้ครอบครัวแตกแยก

เขาอายุ 71 ปี มีลูกชายสองคน ทั้งคู่แต่งงานแล้ว หลังจากที่ภรรยาเสียชีวิต เขาก็อยู่คนเดียวในบ้านหลังเก่า ตอนนั้น ลูกชายคนโตและภรรยาเกรงว่าเขาจะเหงา เลยพาเขาไปอยู่ด้วย ตั้งแต่ย้ายไปอยู่กับลูกชายคนโต เขาได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดีจากลูก ๆ ทำให้สภาพจิตใจดีขึ้นมาก แต่ในทางตรงกันข้าม ลูกชายคนเล็กและภรรยากลับไม่ค่อยสนใจ นอกจากวันหยุดแล้ว พวกเขาแทบไม่มาเยี่ยม

ไม่นานมานี้ พื้นที่ที่บ้านของเขาถูกเวนคืนเพื่อทำถนน บ้านเก่าของเขาและภรรยาจึงเปลี่ยนจากการอยู่ในตรอกเป็นริมถนนใหญ่ มูลค่าอสังหาริมทรัพย์พุ่งสูงขึ้น และมีคนหลายคนขอซื้อในราคาสูงมาก ในตอนแรกเขาลังเล แต่เมื่อคิดแล้วว่าเขาแก่แล้ว ลูก ๆ ก็มีครอบครัวของตัวเองและคงไม่ได้กลับมาอยู่ที่นั่นอีก เขาจึงตัดสินใจขายบ้าน ได้เงินมา 3 พันล้านดองเวียดนาม (ราว 4 ล้านบาท) และตั้งใจจะแบ่งให้ลูก ๆ หมด ไม่เก็บไว้ใช้เอง

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ลูกชายคนโตและภรรยามาฉลองวันเกิดให้เขา ระหว่างงานเลี้ยง เขาประกาศกับทุกคนว่าจะให้ลูกคนละ 1.5 พันล้านดอง จากการขายบ้านทันทีที่เขาพูดจบ ลูกชายคนโตและภรรยาดีใจมากและขอบคุณเขาไม่หยุด แต่เมื่อเขาหันไปมองลูกชายคนเล็กและภรรยาที่นั่งอยู่ตรงข้าม สีหน้าของพวกเขากลับดูไม่ดีเลย

ลูกสะใภ้คนเล็กลุกขึ้นทันทีและถามเขาเสียงดังว่า “พ่อเคยบอกว่าจะเอาเงินทั้งหมดมาช่วยพวกเราสร้างบ้านไม่ใช่เหรอเหรอ ทำไมถึงเปลี่ยนใจตอนนี้?” เขาตกใจ เพราะไม่คิดว่าลูกสะใภ้จะมีปฏิกิริยาแรงขนาดนี้

เขาบอกลูกสะใภ้ว่า “ฉันบอกว่าจะพิจารณา แต่ไม่ได้สัญญาว่าจะให้เงินทั้งหมดพวกแกสองคนสร้างบ้าน เงินนี้ก็เป็นของฉัน จะผิดอะไรถ้าฉันอยากแบ่งอย่างยุติธรรม” ลูกสะใภ้คนเล็กตอบกลับอย่างโมโหว่า “พี่ชายและภรรยาของเขามีบ้านใหญ่ รถ และไม่ขาดเงิน แต่เราลำบาก ไม่มีบ้านดีๆ แต่พ่อกลับไม่ช่วยเรา แบบนี้ยุติธรรมหรือ?”

เขาถอนหายใจและมองลูกชายคนเล็กซึ่งก้มหน้า ไม่อยากมีส่วนร่วมในข้อโต้แย้งระหว่างพ่อและภรรยา

เหตุผลที่แบ่งคนละครึ่ง

ในความเป็นจริง เขารู้ดีว่าฐานะการเงินของลูกชายคนเล็กไม่ดีเท่าลูกชายคนโต ลูกชายคนโตเป็นผู้จัดการและมีรายได้มาก ขณะที่ลูกชายคนเล็กเป็นแค่พนักงานทั่วไปที่มีเงินเดือนน้อย ไม่นานมานี้ ลูกชายคนเล็กและภรรยาพูดถึงการสร้างบ้าน เขาจึงคิดจะให้เงินทั้งหมดแก่พวกเขา

แต่ระหว่างที่ลังเล น้องสาวของชายชรามาเยี่ยมและเล่าเรื่องราวในครอบครัวของเธอให้ฟัง เธอบอกว่าเธอให้เงินเก็บส่วนใหญ่แก่ลูกชายคนเล็กเพื่อซื้อบ้าน พอพี่ชายของเขารู้เรื่องนี้ เขาก็ตำหนิเธอว่าไม่ยุติธรรมและตัดขาดความสัมพันธ์กับเธอ ส่วนลูกชายคนเล็กหลังจากซื้อบ้านแล้วก็ไม่สนใจเธออีก ปล่อยให้เธออยู่ลำพังในวัยชรา เมื่อได้ยินเรื่องนี้ เขาจึงตัดสินใจแบ่งเงินให้ลูกทุกคนเท่า ๆ กัน เพื่อหลีกเลี่ยงการกระทบความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้อง แต่เขาไม่เคยคิดว่าสิ่งนี้จะทำให้ลูกสะใภ้คนเล็กรู้สึกว่าเขาไม่ยุติธรรม

ลูกสะใภ้คนโตลุกขึ้นสนับสนุนพ่อสามี โดยบอกว่าเธอเคารพการตัดสินใจของพ่อ เธอยังตำหนิลูกชายคนเล็กและภรรยาว่าโลภและเห็นแก่ตัวที่ไม่สนใจพ่อมาหลายปี แต่พอถึงเวลาจะแบ่งเงิน กลับเรียกร้องเอาทั้งหมด ลูกสะใภ้คนเล็กไม่พอใจที่ได้ยินพี่สะใภ้พูด เลยลุกขึ้นโต้เถียงกัน

เมื่อเขาเห็นลูก ๆ ทะเลาะกันรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เขาโกรธมากจนต้องตบโต๊ะและชี้ไปที่ลูกสะใภ้คนเล็กและตะโกนว่า “เงินนี้เป็นของฉัน ไม่มีใครมีสิทธิ์ยุ่ง ถ้าเธอยังตะโกนอีก ฉันจะไม่ให้แม้แต่บาทเดียว” พอเขาพูดแบบนั้น ลูกชายคนเล็กก็รีบดึงภรรยาออกไป แม้เขาจะโกรธ แต่เมื่อเห็นลูก ๆ จากไป เขาก็ปวดใจ

คืนนั้นเขานอนไม่หลับ คิดถึงทุกอย่างที่เกิดขึ้น บางทีเขาอาจเข้าข้างลูกชายคนโตและภรรยามากเกินไป จนทำให้ลูกชายคนเล็กรู้สึกอิจฉา หรือบางทีเขาอาจไม่ได้ให้ความสนใจกับความลำบากของลูกชายคนเล็กและภรรยามากพอ จนทำให้พวกเขารู้สึกถูกทอดทิ้ง แต่ไม่ว่าจะยังไง ความโลภและความเห็นแก่ตัวของลูกชายคนเล็กและภรรยาก็ทำให้เขาผิดหวังอย่างมาก

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ