เยอร์เกน คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มองหากองกลาง “อเนกประสงค์” ที่เล่นได้หลากหลายบทบาทมานานแล้ว และในที่สุดก็ประสบความสำเร็จในการคว้าตัว ไรอัน กราเวนเบิร์ช มาจาก บาเยิร์น มิวนิค ในวันเดดไลน์ของตลาดนักเตะเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา

กราเวนเบิร์ช เป็นกองกลางที่สามารถเล่นได้ทั้งหมายเลข 8 และ หมายเลข 6 โดยดาวเตะชาวดัตช์วัย 21 ปี มีความสามารถรอบด้านทั้งในการครองบอล ขับเคลื่อนเกม รวมถึงการพาตัวเองขึ้นไปอยู่ในจุดที่ลุ้นยิงประตู

คล็อปป์ กล่าวถึง กราเวนเบิร์ช ว่า “เขาเป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์สูงมาก เขาสามารถขับเคลื่อนบอลได้ เขาเป็นตัวอันตราย และยังพาตัวเองไปอยู่ในกรอบเขตโทษคู่แข่งได้ด้วย”
ขณะที่อดีตเด็กปั้น อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม กล่าวถึงสไตล์การเล่นของตัวเองว่า “ผมคิดว่าผมเลี้ยงบอลได้ดี ผมเป็นผู้เล่นที่มีเทคนิค ผมเป็นผู้เล่นแบบ บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์ และผมเองก็มีลูกไกลยิงที่ดีเช่นเดียวกัน”

ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่คำพูดของ คล็อปป์ และ กราเวนเบิร์ช จะเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับ โธมัส ทูเคิล ผู้จัดการทีม บาเยิร์น มิวนิค ที่ระบุว่า “เขาเป็นกองกลาง บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์ สำหรับผม เป็นนักเตะแนวรุก และปัญหาหลักสำหรับเขาคือ เราไม่ได้เล่นแบบใช้นักเตะเบอร์ 8 ในระบบ 4-2-3-1 ของเรา”

แน่นอนว่าการย้ายมายัง ลิเวอร์พูล ทำให้ กราเวนเบิร์ช ถูกเปรียบเทียบ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม อดีตมิดฟิลด์รุ่นพี่ร่วมชาติที่เคยค้าแข้งในแอนฟิลด์นานถึง 5 ฤดูกาล และประสบความสำเร็จมากมายในฐานะกองกลางคีย์แมนของ คล็อปป์
ไวจ์นัลดุม และ กราเวนเบิร์ช เป็นนักเตะชาวดัตช์เหมือนกัน เป็นนักฟุตบอลที่ชาญฉลาด และวิ่งช่วยทีมทั้งเกรุก-เกมรับอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ซึ่งคุณสมบัติทั้งหมดคือสิ่งที่ คล็อปป์ ต้องการสำหรับลูกทีมทุกคน

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์และแฟนบอลหลายคนมองว่า ลิเวอร์พูล ควรจะเสริมทัพในตำแหน่งห้องเครื่องหมายเลข 6 มากที่สุด หลังจากได้ตัว วาตารุ เอนโด มิดฟิลด์กัปตันทีมชาติญี่ปุ่น จาก สตุตการ์ต มาร่วมทีมเพียงรายเดียวเท่านั้น

ในความคิดของ คล็อปป์ มั่นใจว่า เอนโด จะเข้ามาทำหน้าที่ยืนปักหลักหน้าแผงแนวรับได้เป็นอย่างดี ซึ่งดูได้จากคำสัมภาษณ์ที่ชื่นชมดาวเตะวัย 30 ปีเป็นอย่างมาก และมองว่า ลิเวอร์พูล มีผู้เล่นเพียงพอแล้วในตำแหน่งกองกลางตัวรับ
ห้วงท้ายของตลาดนักเตะที่ผ่านมา มีนักเตะหมายเลข 6 ที่ตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับ ลิเวอร์พูล หลายราย อาทิ ฟลอเรนติโน หลุยส์ ของ เบนฟิกา, อิบราฮิม ซานกาเร ที่ย้ายมาเล่นกับ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์, ชีค ดูคูเร ของ คริสตัล พาเลซ, ดักลาส ลุยซ์ และ บูบาการ์ กามารา ของ แอสตัน วิลลา

อย่างไรก็ตาม คล็อปป์ ตัดสินใจเลือกเซ็นสัญญากับ กราเวนเบิร์ช และเชื่อมั่นในตัว เอนโด ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า นายใหญ่ชาวเยอรมันมีแผนการบางอย่างอยู่ในใจ โดยเห็นได้จากเกมลีกนัดล่าสุดที่ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านถล่ม แอสตัน วิลลา 3-0 แบบไม่มีกองกลางตัวรับธรรมชาติลงสนาม

มันยังไม่ชัดเจนว่า การเล่นในรูปแบบที่ไม่มีกองกลางหมายเลข 6 จะเป็นแท็คติคที่ คล็อปป์ จะใช้ในการเจอกับทีมใหญ่หรือไม่ แต่ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ความเชื่อของเขาคือได้ผู้เล่นในสไตล์ที่ตามหามานานอย่าง กราเวนเบิร์ช เข้ามาร่วมทีมแล้ว